นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ถูกวิพากษ์จากทั้งฝ่ายค้านและสมาชิกวุฒิสภา กรณีเดินทางไปต่างประเทศกว่า 120 วันในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา จนบางครั้งต้องยกเลิกการประชุมบอร์ดเพราะองค์ประชุมไม่ครบ ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลเริ่มตีตัวออกห่าง และประชาชนจับตาว่า นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร หรือจะนิ่งท่ามกลางแรงกดดันทางการเมืองที่ร้อนระอุขึ้นเรื่อย ๆ
ฝ่ายค้านเปิดเกมถล่ม ปมบินนอกต่อเนื่อง
เสียงวิจารณ์จากทั้งฝ่ายค้านและวุฒิสภาเริ่มทวีความรุนแรง หลังปรากฏข้อมูลว่า นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ มีสถิติเดินทางไปต่างประเทศมากกว่า 120 วันในเวลาเพียง 18 เดือน โดยในบางช่วงเวลาเกิดเหตุประชุมบอร์ด กสทช. ต้องยกเลิก เพราะองค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่ไม่เข้าร่วมคือประธาน กสทช. เอง
ฝ่ายค้านถึงกับเปรียบเทียบสถานการณ์นี้ว่า หากเป็นองค์กรเอกชน ซีอีโอคงโดนปลดไปตั้งแต่ไตรมาสแรก พร้อมตั้งคำถามต่อบทบาทของประธานองค์กรอิสระว่า ยังมีความชอบธรรมในการทำหน้าที่หรือไม่ ขณะที่ฝ่ายวุฒิสภาก็เริ่มแสดงท่าทีไม่พอใจ และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเชิงลึก
รัฐบาลเริ่มร้อน นายกฯ ถูกจ้องว่าจะปลดหรือไม่
กระแสวิจารณ์ดังกล่าวเริ่มสร้างแรงกระเพื่อมไปถึง ทำเนียบรัฐบาล เมื่อคนในเริ่มออกมาเปิดเผยว่า “กระแสมันแรง นายกฯ ก็เริ่มหนาว” เพราะกรณีนี้อาจกลายเป็นตัวชี้วัดความเด็ดขาดและภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีโดยตรง
แม้ พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธาน กสทช. จะออกมายืนยันว่า ทุกการเดินทางมีภารกิจที่สำคัญและค่าใช้จ่ายเป็นไปอย่างโปร่งใส แต่คำถามจากสังคมยังคงชัดเจน:
- ทำไมจึงต้องเดินทางบ่อยขนาดนี้?
- ภารกิจนั้นส่งผลอะไรต่อการพัฒนาโทรคมนาคมในประเทศ?
- ประโยชน์ของประเทศชาติอยู่ตรงไหน?
คำถามเหล่านี้ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาล และยิ่งทำให้สังคมตั้งคำถามว่า นายกรัฐมนตรีจะดำเนินการอย่างไรกับปัญหานี้
สัญญาณอันตรายต่อความเชื่อมั่นองค์กรอิสระ
เมื่อประชาชนเริ่มรู้สึกว่า “ภาษีของตนถูกใช้เพื่อส่งใครบางคนไปเดินห้างที่แอลเอ” ความเชื่อมั่นต่อองค์กรอิสระอย่าง กสทช. ก็เริ่มถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรง เพราะการกระทำของผู้นำองค์กรย่อมมีผลต่อภาพรวมทั้งองค์กร
ในแง่ของการเมือง หาก นายกรัฐมนตรี ยังนิ่งเฉยต่อสถานการณ์นี้ อาจถูกมองว่าไม่มีภาวะผู้นำเพียงพอ หรือเลือกที่จะปกป้องคนใกล้ชิดมากกว่าผลประโยชน์ของสาธารณชน และหากปล่อยให้เรื่องนี้ยืดเยื้อ อาจถึงจุดที่ ประชาชนเลือกจะปลดทั้งสองคนพร้อมกัน

ข้อมูล/ภาพ : สำนักข่าวอิศรา