ในวันที่ตลาดสตรีมมิ่งแข่งขันกันดุเดือดไม่แพ้สนามบอล JAS และ AIS กลับเลือกเดินเกมอย่างสุขุมแต่เฉียบคม ด้วยการจับมือลุยศึกใหญ่ คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดพรีเมียร์ลีก และเอฟเอคัพ อังกฤษ แบบเอ็กซ์คลูซีฟยาว 6 ฤดูกาล เริ่มตั้งแต่ปี 2025/26 – 2030/31 ครอบคลุม 3 ประเทศ คือ ไทย ลาว และกัมพูชา
นี่ไม่ใช่แค่การลงทุนมูลค่ากว่า 19,000 ล้านบาทจาก JAS แต่คือการแสดงความกล้าในการก้าวสู่บทใหม่ของ “อุตสาหกรรมความบันเทิงกีฬา” ที่ไม่ใช่แค่การนำภาพการแข่งขันมาเผยแพร่ แต่คือการสร้างประสบการณ์การรับชมที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล
AIS ในฐานะพันธมิตรหลักด้านแพลตฟอร์ม พร้อมนำ AIS PLAY และ Monomax มาสานต่อภารกิจ ถ่ายทอดทุกจังหวะของเกมลูกหนังระดับโลกให้ผู้ชมเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเชียร์ในห้องนั่งเล่น ริมระเบียง หรือระหว่างเดินทาง
และเมื่อค่าบริการรายเดือนที่คาดการณ์ไว้เพียง 329 บาท ถือว่าเข้าถึงได้สำหรับคนทั่วไป นี่คือการขยับเกมที่ทั้ง “เปิด” และ “ขยาย” ฐานผู้ชม พร้อมวางเดิมพันบนยุทธศาสตร์ระยะยาวมากกว่ารายได้เพียงปีต่อปี
ขณะที่หลายประเทศในภูมิภาคยังจับจ้องสิทธิ์บอลอังกฤษเป็นแค่ “คอนเทนต์พรีเมียม” JAS กลับมองเป็น “ทรัพยากรยุทธศาสตร์” ที่จะเสริมโครงสร้างดิจิทัลในประเทศให้แน่นแฟ้น และหากปั้นสำเร็จ ก็มีโอกาสต่อยอดไปสู่การบริหารลิขสิทธิ์ระดับนานาชาติในอนาคต
AIS เองก็ใช้โอกาสนี้ในการต่อยอดศักยภาพของแพลตฟอร์มในฐานะผู้ให้บริการความบันเทิงครบวงจร ไม่ใช่แค่ปล่อยสัญญาณ แต่สร้างระบบนิเวศดิจิทัล ที่ผูกพันกับวิถีชีวิตผู้ชมอย่างแนบเนียน
สุดท้ายนี้…พรีเมียร์ลีกไม่ได้เป็นแค่ฟุตบอลอีกต่อไป แต่มันคือสมรภูมิใหม่ของแบรนด์ เทคโนโลยี และศักยภาพระดับชาติ ใครคว้าสิทธิ์ได้ก่อน ย่อมได้เปรียบทั้งในสนามธุรกิจและในใจผู้ชม
ข้อมูล/ภาพ : PPTV
