คลื่นใต้น้ำเริ่มก่อตัว รอเวลาเกิดแรงกระเพื่อมเกิดคลื่นลูกใหญ่
เพื่อไทยเริ่มกระชับพื้นที่ ตอบโต้พรรคภูมิใจไทย แก้เกมตกเป็นเบี้ยล่างพรรคอันดับ 2
ทำนโยบายพรรคแกนนำรัฐบาลเครื่องช็อต ติดๆ ดับๆ ทั้งกฎหมายประชามติ การแก้รัฐธรรมนูญ
ล่าสุดอภิมหาโปรเจกต์สถานบันเทิงครบวงจร เรือธงที่หวังจะใช้กู้วิกฤติเศรษฐกิจดันติดหล่ม
เพราะอิทธิฤทธิ์ภูมิใจไทยคอยขัดแข้งขัดขา
“นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เริ่มเหลืออดเกมตีสองหน้าค่ายสีน้ำเงิน
เตรียมเปิดปฏิบัติการทุบกลับเกรียนเซราะกราว
ซีนใหญ่ที่ต้องจับตาคือ การปรับครม. ตามธรรมเนียมปฏิบัติหลายครั้งหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ตามแรงเสี้ยมคนในพรรคเพื่อไทยยุไล่ยึดคืนโควตากระทรวงมหาดไทยจากพรรคภูมิใจไทย
แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สบโอกาสแก้เผ็ดเพื่อนร่วมรัฐบาลให้หยุดเหิม ทำตัวขี่พรรคแกนนำ
เปิดปฏิบัติการแก้เผ็ดทีละขยัก ตามคิวฉายหนังตัวอย่าง
ไล่ยึดคืนเก้าอี้ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจใหญ่ๆ อาทิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
ที่เคยได้รับแต่งตั้งมาในยุคพรรคภูมิใจไทย
เดินเครื่องตัดท่อน้ำเลี้ยงค่ายสีน้ำเงิน
รอยร้าว “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ขยายแนวเพิ่มขึ้น
ยังไม่รู้จะยกระดับไปถึงขั้นไล่ยึดโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่
สถานการณ์ไฟต์บังคับที่การปรับครม.ต้องเกิดขึ้นแน่
เพื่อยกเครื่องการทำงานใหม่ สร้างความเชื่อมั่นในมิติเศรษฐกิจ
ที่กำลังเผชิญพายุอารมณ์ประชาชนหนักหน่วง เพราะนโยบายฟื้นเศรษฐกิจที่ผ่านมาไม่เห็นผล
ดิจิตัววอลเล็ตฝนตกไม่ทั่วฟ้า เงินหมื่นไม่ถึงมือประชาชนทุกกลุ่ม
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดยังเจอสงครามภาษีการค้า “โดนัลด์ ทรัมป์”
โจมตีภาคส่งออกไทยกระอักเลือด ถล่มเศรษฐกิจไทยทรุดเป็นผู้ป่วยติดเตียง
โคม่าทั้งระดับจุลภาค มหภาค ย่อยยับทุกองคาพยพตั้งแต่ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจ นักลงทุน
ขณะที่โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ความหวังใหม่ฟื้นเศรษฐกิจ
เจอแรงต้านทั่วสารทิศ ทั้งในและนอกสภา
นโยบายกับความรู้สึกสังคมไม่ไปทางเดียวกัน ยังไม่รู้จะถูกแขวนยาวถึงเมื่อไร
จำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ปรับครม. ยื้อต่อความหายใจ เติมความหวังให้เห็นแสงสว่าง
ไม่อมโรคเรื้อรังเหมือนปัจจุบัน ถึงเวลาปรับโฉม “ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล”
ปั่นผลงาน แก้ปัญหาติดหล่มต่างๆ ให้ทันสถานการณ์โลก
“พิชัย นริพทะพันธุ์” รมว.พาณิชย์ อาการโคม่า
ตามผลสำรวจความเห็นประชาชนของ “นิด้าโพล” เสียงเกิน 50% ระบุตรงกันควรปรับเปลี่ยน
แม้กระทั่ง ส.ส. เพื่อไทย รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ยังสะท้อนความคิดตรงกันคือ จุดอ่อนรัฐบาล
เสียงในพรรค-นอกพรรค เร่งให้ปรับ รมว.พาณิชย์ ด่วนจี๋
ถึงเวลาใช้มืออาชีพตัวจริง แก้เกม “สงครามการค้าโลก”
มากกว่าการปรับครม.ตามโควตากลุ่มก๊วนการเมืองต่างๆ
พายุกระหน่ำเพื่อไทยทุกสารทิศ ภาวะที่ภูมิต้านทานรัฐบาลอ่อนแอ
สถานการณ์ในรัฐบาลเกิดความขัดแย้ง พรรคอันดับ 1 ตกเป็นเบี้ยล่างพรรคอันดับ 2
เสี่ยงเจอโรคแทรกทั้งในและนอกสภา
ถ้ายังกู้ความเชื่อถือจากประชาชนกลับมาไม่ได้
โฉมหน้าครม.ชุดใหม่ ยังไม่ตรงปก ถูกใจประชาชน
ความเชื่อมั่น “นายกฯ อิ๊งค์” ยิ่งกู่ไม่กลับไปกันใหญ่
นอกสภาก็ไม่ยอมรับ ในสภาก็มีความขัดแย้ง
มีเรื่องให้ระวัง-ระแวงเต็มไปหมด ทั้งบนดินและใต้ดิน
สัญญาณอันตราย อย่างที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประเมิน แม้พรรคร่วมรัฐบาลจะมี 300 กว่าเสียงในมือ
แต่ไม่ได้การันตีเสถียรภาพรัฐบาลจะมั่นคงตลอดไป
เอกภาพรัฐบาลไม่ไปในทิศทางเดียวกัน
ถึงจุดแตกหักเมื่อไร ก็สิ้นสุดทางลากไปต่อ!!!

ใต้เงาไท