ถ้าใครจำได้ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เคยถูกจุดพลุขึ้นฟ้าอย่างอลังการ…ตอนหาเสียง
แต่พอถึงเวลาต้องจ่าย “จริง” เสียงพลุเริ่มเงียบหาย เหลือไว้แต่ “ควัน” ลอยบางๆ พร้อมคำประกาศล่าสุดว่า
“เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด”
แล้วก็อ้างว่า GDP โตไม่ถึงเป้า
คำถามคือ…
ตอนหาเสียงไม่รู้เหรอว่าเศรษฐกิจมันเปราะบางขนาดนี้?
เพราะตอนนั้นบอกว่า
“ถ้าทำไม่ได้ ขอให้เอาหน้าไปวางไว้บนถนน”
วันนี้ไม่มีใครวางหน้าลง แต่ประชาชนวาง “ความหวัง” ลงพื้นแล้วเรียบร้อย
ในเชิงเศรษฐศาสตร์ เข้าใจได้ว่า GDP ต่ำกว่าคาดหมายจริง การอัดฉีดเงินมหาศาลอาจไม่ใช่คำตอบที่ยั่งยืน แต่ในเชิงการเมือง…ประชาชนไม่ได้เลือกรัฐบาลมาเพื่อ “เลื่อนทุกอย่างออกไปไม่มีกำหนด”
คำถามต่อมาคือ ถ้า GDP โตเกินเป้า จะกล้าจ่ายทันทีไหม?
หรือจะมีเหตุผลใหม่ เช่น “ต้องรอให้หนี้สาธารณะลดลงก่อน” หรือ “ประชาชนยังไม่พร้อมใช้เทคโนโลยี”
มันจะวนเวียนแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน?
บางคนพูดตรงๆ ว่า
“นี่มันไม่ใช่การเลื่อน แต่คือการ ‘ถอดสายออกจากเครื่องช่วยหายใจ’ โดยไม่กล้าบอกญาติ”
แล้วที่ประชาชนควรได้ หายไปไหน?
ลองดูประเทศอื่นอย่างญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ เขาใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเฉพาะกลุ่ม ช่วยตรงจุด และทำจริง
ไม่ใช่ปล่อยให้คนทั้งประเทศ “ฝันกลางวัน” แล้วตื่นมาพร้อมคำว่า “เลื่อนไปก่อนนะครับ”
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องงบประมาณ
แต่มันสะท้อน “ความรับผิดชอบทางการเมือง”
การเลื่อนโดยไม่มีกรอบเวลาชัดเจน
ก็เหมือนการหมั้นแล้วไม่แต่งงาน…สุดท้ายเจ้าสาวกลายเป็น “เจ้าทุกข์” เสมอ
คำถามที่สังคมอยากรู้ก็คือ…
เมื่อไหร่รัฐบาลจะกล้าบอกความจริงทั้งหมด ว่าโครงการนี้ยังจะเกิดขึ้นจริงไหม หรือว่า…ว่าวมันขาดตั้งแต่ก่อนปล่อยขึ้นฟ้าแล้ว?
