พลิกจากโหมดเพื่อนร่วมรัฐบาล ตกอยู่ในภาวะผู้ถูกรุกไล่
ฉากหวาน “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กอดไหล่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เวที ป.ป.ส. แค่เซตฉากตบตา
คล้อยหลังไม่กี่วัน หลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระ 1
สถานะค่ายภูมิใจไทยกลิ้งเป็นฝ่ายตั้งรับ
เจอเกมทุบ “นายใหญ่” ไล่บี้ให้คายกระทรวงมหาดไทยคืนพรรคเพื่อไทย แลกการมีที่นั่งต่อในพรรคร่วมรัฐบาล
คำตอบสุดท้ายจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ยังไม่รู้
แต่คลื่นสัญญาณถูกส่งแรงกว่าทุกรอบ เพราะนายใหญ่จงใจหลุดปากให้รับรู้ผ่านเวทีให้สัมภาษณ์งานวันครบรอบสื่อทีวีใหญ่
อาการกระเหี้ยนกระหือรือของผู้จัดการรัฐบาลตัวจริง ตั้งท่าเอาแน่
ยึดเก้าอี้ มท.1 จากพรรคภูมิใจไทย กลับมาอยู่ในความดูแล
แลก 2 เก้าอี้ในชอยส์ รมว.พาณิชย์ รมว.สาธารณสุข หรือ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ไม่ใช่แค่คำขู่ แต่ความน่าจะเป็นมีแนวโน้มเกิดขึ้นสูง
ตามท่าทีไม่ตอบรับและไม่ชิงปฏิเสธของแกนนำเพื่อไทยหลายคน
โยนให้เป็นการอำนาจตัดสินใจของ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียงผู้เดียว
โดยพร้อมสนับสนุนการตัดสินของนายกฯ ในทุกกรณี
ขณะที่คำตอบของ “นายกฯอิ๊งค์” ก็แทงกั๊กแบ่งรับแบ่งสู้
บอกอะไรก็เกิดขึ้นได้ ออกลูกไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ
แตกต่างจากการโยนหินถามทางสลับเก้าอี้ รมว.มหาดไทยหลายครั้งก่อนหน้านี้ ที่มักเสียงแข็ง ปฏิเสธมาตลอด
แม้กระทั่งท่าที “เสี่ยหนู” ก็ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธชัดเจน และไม่ตอบคำถามจะถอนตัวร่วมรัฐบาลหรือไม่
หากถูกริบกระทรวงมหาดไทยคืน
เลี่ยงการปะทะนายใหญ่โดยตรง ปล่อยให้คลุมเครือตีความไปต่างๆ นานา
ภูมิใจไทยต้องลุ้นระทึก ต่อรองการปรับ ครม. จะจอดป้ายหรือได้ไปต่อ
วัดจากเสียงพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันมี 324 เสียง
หากบวกกลุ่มงูเห่าจากพรรคฝ่ายค้านที่เปิดตัวชัดๆ อีกเกือบ 10 คน น่าจะมีเสียงเกือบ 335 เสียง
แต่หากพรรคภูมิใจไทยถูกเฉดออกจากการร่วมรัฐบาล เสียงรัฐบาลจะฮวบเหลือราวๆ 265 เสียงบวกลบนิดหน่อย
เกินกึ่งหนึ่ง หรือ 248 เสียง ของจำนวน ส.ส. ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งหมด 495 คน มาราวๆ 15-17 เสียง
อยู่ในขั้นปลอดภัยได้ระดับหนึ่ง ไม่ถึงขั้นปริ่มน้ำ
แต่ก็ประมาทไม่ได้ ต้องจัดระเบียบองค์ประชุมให้ดีตอนประชุม
ตามผลโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 วาระแรก
ที่มีเสียงเห็นชอบ 322 เสียง
ก็มี น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน เป็นงูเห่าใหม่คนเดียว
ที่เหลือก็เป็นงูเห่าหน้าเดิมๆ ที่รับรู้ เห็นจนชินตาอยู่แล้ว
ยังไม่มีงูเห่าตัวใหม่ๆ ผุดเป็นดอกเห็ดที่จะไปการันตีให้รัฐบาลมีเสถียรภาพแน่นหนาเป็นกอบเป็นกำขึ้น
ทดแทนกรณีหากต้องสูญเสียพรรคภูมิใจไทย
คงได้แต่ไปลุ้นเอาดาบหน้า
แช่งฝ่ายค้านให้เสียงหายไปเยอะๆ จากกรณีการลงดาบอดีต 44 ส.ส. พรรคก้าวไกล
คดีเข้าชื่อแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ที่ปัจจุบันเป็น ส.ส. พรรคประชาชนอยู่ 25 คน
ตัดแต้มเสียงฝ่ายค้านให้ร่อยหรอลงไปเอง
หากสุดท้ายต้องไร้พรรคภูมิใจไทยจริงๆ ก็ไม่รู้รัฐบาลจะยืนระยะรักษาเสถียรภาพความมั่นคงได้นานแค่ไหน
ต้องวัดใจ เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ค่ายภูมิใจไทย
จะแก้เกมแผนยึดเก้าอี้ มท.1 ของนายทักษิณอย่างไร
หากยอมให้ยึด
นอกจากจะเสียหน้า เสียราคายอมเอาสินค้าเกรดเอบวกไปแลกกับเกรดรองแล้ว
ค่ายภูมิใจไทยยังเสี่ยงตกเป็นเบี้ยล่าง
หลังจากนี้ไม่รู้จะถูกค่ายเพื่อไทยกดหัวหนักขึ้นหรือไม่
ถอนแค้นที่มักเสียดุลอำนาจให้ทัพเซาะกราวบ่อยครั้ง
แต่หากภูมิใจไทยไม่ให้แลกเก้าอี้
ยอมถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลเป็นฝ่ายค้าน
ก็ต้องรับแรงกระแทกแต้มวูบในการเลือกตั้งรอบหน้า
เพราะดีเอ็นเอค่ายสีน้ำเงินไม่ได้ผลิตมาเพื่อเป็นฝ่ายค้าน
แต่อาศัยการเป็นรัฐบาลชิงความได้เปรียบ ในการจัดสรรงบลงมาพัฒนาพื้นที่ของตัวเอง
ถอยหลังก็เสียทรง เดินหน้าชนแตกหักก็เสี่ยงพัง
สถานการณ์ภูมิใจไทยโดนไล่ต้อนเข้ามุมอับ
บีบให้ต้องเสียดุลอำนาจ แลกกับการไปต่อในรัฐบาล

-ใต้เงาไท-