กัมพูชายอมถอยทัพ
สั่งทหารถอนกำลังพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี
และปิดกลบคูเลต ปรับพื้นที่กลับคืนสู่สภาพปกติ
ลดการเผชิญหน้า 2 ประเทศ
ผลพวงมาตรการตอบโต้จากฝั่งไทย
ยกระดับจากเบาไปหาหนัก
ทั้ง การปิดด่านชายแดนหลายจุด,
การคุมเข้มคนเข้าออกด่าน,
ควบคุมการส่งสินค้าไปกัมพูชา,
พร้อมเตรียมดาบสอง
สั่งตัดสัญญาณอินเตอร์เนต
ตัดไฟพื้นที่บ่อนพนันและแหล่งสกิมเมอร์ เป็นมาตรการต่อไป
เกมแก้เผ็ดทหารเขมร
ไม่ยอมถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทช่องบก
ซ้ำยังเติมกำลังหนุนเข้าพื้นที่ชายแดนอีก
พร้อมปฏิเสธช่องทางเจรจาในเวทีทวิภาคี
ไทยเปิดเกมรุก โดยไม่ต้องรบ
อาศัยการคุมเข้มปิดด่านชายแดน
จ่อตัดเนต ตัดไฟ
สะเทือนการค้าชายแดนกัมพูชาที่ต้องพึ่งพาสินค้าไทยเป็นหลัก
เขมรหายห้าว
ถูกไทยเดินเกมกดดันใช้มาตรการทางเศรษฐกิจตอบโต้
กระทบปากท้องชาวกัมพูชาทันทีทันใด
สะเทือนคะแนนนิยมรัฐบาล “ฮุนมาเนต”
ที่ฉวยโอกาสใช้กระแสคลั่งชาติมาโจมตีประเทศไทย
สถานการณ์ตึงเครียดไทย-กัมพูชา
มีแนวโน้มคลี่คลายในทิศทางดีขึ้น
แต่ยังไว้วางใจไม่ได้
จำเป็นต้องตรึงมาตรการคุมเข้มชายแดนและกดดันต่อไป
รอดูเล่ห์เขมรจะถอยทหารจากพื้นที่พิพาทจริงหรือไม่
มาตรการเด็ดขาดที่คนไทยอยากเห็น
นำมาตอบโต้รัฐบาลกัมพูชาอย่างจริงจัง
แต่กว่ารัฐบาลไทยจะตั้งหลักได้
ก็ต้องขับเคลื่อนด้วยเสียงด่าจากประชาชน
พายุอารมณ์คนในชาติซัดกระหน่ำรัฐบาลให้หายงัวเงีย
ต้องออกแอกชั่นสนับสนุนข้อเสนอกองทัพ
ให้ปิดด่านชายแดน ข่มกลับกัมพูชาที่ล่วงล้ำอธิปไตยไทย
ไม่หยุดอยู่แค่บทรูทีน
ออกแถลงการณ์ให้ใช้กลไกเวทีเจบีซีเจรจาสร้างสันติภาพ
กดดัน “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี นั่งไม่ติด
ต้องร่วมเป็นตัวตั้งตัวตี
รุกคืบเจรจาแกนนำกัมพูชาแก้ปัญหาข้อพิพาท
โชว์ภาวะผู้นำประเทศ
มากกว่าเล่นบทต่อปากต่อคำวีนใส่นักข่าว
ในการตอบคำถามความขัดแย้งแนวชายแดนของ 2 ประเทศ
แสดงท่าทีความเด็ดขาด
ยึดผลประโยชน์ชาติเป็นตัวตั้ง
ลบข้อครหาภาพความสัมพันธ์แนบแน่นของ
ตระกูลชินวัตร กับ ตระกูลฮุน
ที่ถูกเคลือบแคลงวาระซ่อนเร้นผลประโยชน์ร่วมทางธุรกิจอยู่เบื้องหลัง
จึงวางตัวสงบเสงี่ยม
ออกอาการหงอเพื่อนบ้านในช่วงแรก
ภาวะไฟลนก้น “นายกฯอิ๊งค์”
รีบดับอารมณ์ร่วมปมอธิปไตยประเทศ
เรื่องอ่อนไหวของคนในชาติไม่ให้ลุกลามจุดติด
เร่งกู้แต้มมือเป็นระวิง ก่อนความนิยมดิ่งเหว
สถานการณ์ที่ผู้นำประเทศเผชิญศึกรอบด้านหายใจรดต้นคอ
ภาพลักษณ์ติดลบ
ทั้งปัญหาความมั่นคงชายแดนที่ปะทุทุกภูมิภาค
ปัญหาเศรษฐกิจย่ำแย่กระทบปากท้องประชาชน
ปัญหาสังคม ยาเสพติดะบาดทุกหัวระแหง แก้กันไม่ตก
แม้กระทั่งเรื่องความมั่นคงภายในพรรคร่วมรัฐบาลก็น่าห่วง
หนักหน่วงไม่แพ้กัน
พรรคภูมิใจไทยฮึดสู้
ไม่ยอมถูกยึดกระทรวงมหาดไทย
ตามการส่งซิกของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ที่เร่งเวนคืนเก้าอี้มท.1
กลับมาอยู่ในความดูแลของพรรคเพื่อไทย
“เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล
รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ยืนกรานเสียงแข็ง
โควตารัฐมนตรีกระทรวงเดิม
ไม่สลับสับเปลี่ยนแม้แต่กระทรวงเดียว
รู้แกวนายใหญ่จ้องยึดกระทรวงมหาดไทยคืน
เพราะหวังคุมกลไกองค์กรปกครองท้องถิ่น
ทั้ง อบจ. อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
องคาพยพหลัก
ระดับหัวคะแนนสำคัญที่มีส่วนช่วยชี้ขาดคะแนนเลือกตั้ง

สัญญาณเร่งปรับครม.นายใหญ่สะท้อนชัด
ไม่คิดตอบโจทย์แก้ปัญหาประชาชน
แต่ซ่อนเล่ห์กระชับอำนาจการเมือง
วางขุมกำลังแทรกซึมในท้องถิ่น
ชิงความได้เปรียบคุมเกมเลือกตั้งสมัยหน้า
ขืนให้กองทัพสีน้ำเงินฝังชิพอำนาจท้องถิ่นต่อเนื่อง
อาจเป็นก้างขวางคอพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้ง
ปมไล่ยึดเก้าอี้มท.1
ทำสถานภาพ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” กระเพื่อมหนัก
ในภาวะที่พรรคสีน้ำเงินก็ปักหลักต้านเข้มแข็ง
ไม่ให้ถูกทุบหม้อข้าวฐานกำลังหลักของตัวเอง
สร้างแรงกระเพื่อมเขย่าเสถียรภาพรัฐบาลซ้ำอีกทาง
ศึกนอก-ศึกใน
รุกคืบประชิดตัว “นายกฯอิ๊งค์”
เป็นเกมเดิมพันอำนาจ
หากขยับหมากบริหารจัดการผิดพลาด
เส้นทางรัฐบาลก็เสี่ยงเกมโอเว่อร์!!!
-ใต้เงาไท-