“แทรกแซงการเมือง-การปกครอง ประเทศไทย”

คือหมุดหมายของ สมเด็จจอมพล ฮุน เซน ผู้ที่เพิ่งสถาปนาตัวเองเป็น “เสนาธิการกองทัพเขมร” อีกตำแหน่ง

ถือโอกาสที่ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร พลิกกระบวนท่าหันมาซื้อใจกองทัพต่อเนื่อง ล่าสุดไปลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ปลุกปลอบขวัญกำลังพล

ฮุน เซน ก็ขุดกรุคว้าชุด“จอมพลห้าดาว” มาแต่งองค์ทรงเครื่อง เปิดสงครามข่าวจิตวิทยา กับตระกูลชินวัตร อีกรอบ นั่ง ฮ. มาให้กำลังใจทหารเขมรที่ จ.อุดรมีชัย และ จ.พระวิหาร ประชิดติดชายแดนไทย

แย่งชิงพื้นที่สื่อไทย สื่อเขมร ด้วยการปล่อยของรอบใหม่ ขู่เปิดคลิปลับแฉ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่เคยมาเจรจาพูดคุยในอดีต ว่าเคยว่าร้ายประเทศไทย และสถาบันเบื้องสูงของไทย ไว้อย่างไรบ้าง

การเปิดชุดข้อมูลใหม่ของ ฮุน เซน ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย ไม่มีอะไรว้าวววว

ทั้งเรื่องอาการป่วยทิพย์ของ “นายใหญ่ ชั้น 14” หรือการถือพาสปอร์ตกัมพูชาของ อดีตนายกฯปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

หวังเติมฟืนสุมไฟใส่ประเทศไทย แบบยิงปืนนัดเดียว นกตายเป็นฝูง ตัวแรกก็ขยายผลสืบเนื่องหลังปล่อยคลิปมรณะกะสังหาร นายกฯผู้ลูก แพทองธาร ชินวัตร

รอบนี้กะลาก อดีตนายกฯตัวพ่อ เข้าสู่ทุ่งสังหารอดีตเขมรแดง เป้าประสงค์คือโค่นล้มรัฐบาลตระกูลชิน ลงให้ได้

ตัวที่สอง คือช่วยจุดกระแสเติมคนเข้าม็อบ ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ เพื่อตอกลิ่มปั่นกระแสความแตกแยกภายในของไทย ให้ขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น

ตัวต่อมา คือการเอาคืนไทย หลังโดนปฏิบัติการทุบหม้อข้าวเขมรเทา-จีนเทา และรวมไปถึงไทยเทา เครือข่ายแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งค้ามนุษย์ รวมถึงบ่อนกาสิโนในฝั่งเขมร

การเดินเกมเขย่าการเมือง-การทหารไทย และเปิดเกมการทูตตามถนัดของ “จอมพลห้าดาว” หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในไทย “ยืมมือที่มองไม่เห็น” กำจัดตระกูลชินวัตรให้พ้นวงจรอำนาจ

ฮุน เซน มีชุดข้อมูลจากใคร ถึงมั่นใจว่าไม่เกิน 3 เดือนนี้ จะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีของไทย หากบอกว่าเป็นการประเมินจากสถานการณ์ที่ตระกูลชินวัตร ถูกไล่ต้อนอยู่ขณะนี้ ก็เข้าเค้า

แต่จากข้อมูลการข่าว ฮุน เซน แตะมือคนใน ที่เพิ่งจะแตกหักถูกเขี่ยออกจากวงครม. มาตั้งตัวเป็นโต้โผใหญ่เติมคนเข้าม็อบ เพราะมีผลประโยชน์ เทาๆ ดำๆ ตามแนวตะเข็บชายแดนร่วมกัน

การกล้าเล่นใหญ่หักหลังเพื่อนเลิฟ ของ ฮุน เซน รอบนี้ ต้องมีค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ เหมือนที่เคยหักหลังเขมรแดง ไปซบปีกเวียดกง จนสถาปนาตัวคอบครองอำนาจมาจนวันนี้

มีใครไปรับปากอะไรไว้ลับหูลับตาคนไทยอีกหรือไม่

สถานการณ์ของรัฐบาลแพทองธาร ที่ดูลุ่มๆดอนๆแบบนี้ ไม่มั่นใจว่าจะลากถูลู่ถูกัง ไปได้อีกนานแค่ไหน การใช้กลวิธีซื้อใจทหาร เอาใจกองทัพ แบบพร้อมเปย์เต็มสูบ พยายามจะย้ำภาพว่ารัฐบาลกับกองทัพยังคงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

จะสามารถกอบกู้ฟื้นคืนวิกฤติศรัทธา ลดโทนอารมณ์ของคนในสังคม ได้ทันหรือไม่

แต่สิ่งที่จะทำให้รัฐบาลชุดนี้อยู่รอด คือการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส โดยเฉพาะช่วงการปรับครม. หลังจากถีบพรรคภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้าน มีเก้าอี้ว่างลงหลายตำแหน่ง

และน่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของตระกูลชินวัตร ในการรักษาพื้นที่อำนาจ บนกระดานการเมืองไทย คือการเปิดโควตาให้กลุ่มนักบริหารมืออาชีพ โดยเฉพาะกระทรวงสำคัญๆ ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผลักดันนโยบายในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

สุดท้ายกลายเป็นว่า ครม.อิ๊งค์ 2 ไม่มีที่ว่างสำหรับพวกมืออาชีพ เพราะดูจากโผที่ออกมา ตำแหน่งต่างๆ เอาไว้สำหรับการบริหารความสุขให้กับพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น

ยอมให้พรรคร่วมขี่คอต่อรอง แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ยื้ออำนาจไว้ชั่วคราว

น่าจะเป็นวาระสุดท้ายของ “ชินวัตร แฟมิลี่” แล้วจริงๆ