สิ้นเสียงปะทะจากสมรภูมิชายแดนไทย-กัมพูชา
สถานการณ์ความขัดแย้งวันนี้ขยับไปสู้กันในสมรภูมิการเมืองระหว่างประเทศ
ขแมร์เฟกนิวส์ ยิงข่าวปลอมรัวๆ เขมรชิงเล่นเกมรุกส่งสารบิดเบือนสร้างความได้เปรียบ บีบน้ำตาหวังความเห็นอกเห็นใจจากนานาชาติ จนดูเหมือนว่าฝ่ายไทยตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ต้องมาตั้งรับคอยแก้ข่าวปลอม
แม้ความจริงก็คือความจริง แต่การเดินกลยุทธ์ตั้งรับด้วยข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง แทนที่ประเทศไทยจะตีเข้าจุดโฟกัส ตอกย้ำความเป็น อาชญากรสงคราม ของพ่อ-ลูกตระกูลฮุน
ย้ำภาพ ฮุน เซน ผู้ร่วมขบวนการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ ชาวเขมรด้วยกันเอง ซึ่งจะสร้างความพะวักพะวงในการเดินเกมเวทีโลกของฝ่ายกัมพูชาไปในตัว
ซึ่งเราก็ต้องยอมรับความจริงว่า การเดินเกมบนเวทีโลก ต้องใช้ความเป็นปึกแผ่นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนทั้งชาติ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชา ตระกูลฮุน ฮุบชนชาติเขมรเอาไว้เบ็ดเสร็จ แต่ของไทยเราต่างฝ่ายต่างไปคนละทิศละทาง สภาพจึงออกมาเป็นแบบนี้
รัฐบาลกับกองทัพไทย ยังไม่สอดประสานกันเท่าที่ควร หลายครั้งที่มุมมองต่อสถานการณ์ เห็นไม่ตรงกันจนส่งผลต่อแนวปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม แม้การเดินเกมของฝ่ายไทย ในการเชิญคณะทูต 11 คน จาก 11 ชาติ อุปทูตหรือตัวแทน รวมถึงผู้ช่วยทูตทหาร 38 คน จาก 23 ประเทศ จะถูกมองว่าช้า
แต่เสียงสะท้อนที่ตอบกลับจากคณะทูต ที่ไปลงพื้นที่ได้เห็นหลักฐานคาตา รับฟังข้อมูลจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้เห็นความทุกข์โศกเศร้าจากผู้สูญเสีย
สะท้อนได้เป็นอย่างดีถึงความโหดเหี้ยม ของอาชญากรสงครามพ่อ-ลูก คู่นี้

เกมการเมืองระหว่างประเทศของ 2 ชาติอาเซียน ยังคงชะเย่อกันไปอีกนาน เกมการเมืองในประเทศ ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน
เมื่อ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯควบรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการแทนนายกฯ พร้อมด้วย เดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย นั่งโต๊ะแถลงข่าวร่วมกัน ถึงผลการสอบกรณีที่ดินเขากระโดง
คู่หูดูโอ้กระทรวงคลองหลอด ชี้เปรี้ยงไปเลยว่าอธิบดีกรมที่ดิน(ตัวต้นเรื่อง) ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลฎีกา และศาลปกครอง
ภูมิธรรม ประกาศลั่น สรุปยืนยันว่าที่ดินเขากระโดงผืนนี้ เป็นที่ดินของรัฐ กรมที่ดินมีอำนาจเพิกถอนได้ทันที ตามคำพิพากษาศาลฎีกาและศาลปกครอง
ท่ามกลางศึกช้างสารชนกัน อธิบดีกรมที่ดิน ทนแรงกดดันไม่ไหว เสนอตัวยื่นใบขอย้ายออกจากกรมที่ดิน
สิงห์น้ำเงินอีกคน ที่ต้องละเห็ดพ้นจากตำแหน่ง ตามหลังอธิบดีกรมการปกครอง และอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น คนก่อนหน้านี้
ซึ่งก็คงโทษใครไม่ได้ เพราะตอนขั้วน้ำเงินเฟื่องฟู ก็ข้ามหัวข้ามหูเพื่อนขึ้นมาเป็นใหญ่เหมือนกัน
งานนี้กรรมเป็นเครื่องบ่งชี้การกระทำ
แต่ทางฝ่ายสีแดงก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้เหมือนกัน คดีต่างๆเริ่มทยอยออกมาเช็กบิล คนในเครือข่าย “นายใหญ่” เหมือนกัน
ล่าสุดพิษจากการโยกงบประมาณไปลงพื้นที่ของตัวเอง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติฟัน พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน กระเด็นตกเก้าอี้ สส.เชียงราย และรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง แถมด้วยการตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปี
คิวต่อไปก็น่าจะเป็น อดีตนายกฯผู้พ่อ ทักษิณ ชินวัตร ในคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษา 9 ก.ย.นี้
ถัดไปก็คิว นายกฯผู้ลูก แพทองธาร ชินวัตร แม้จะได้เลื่อนส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ รอบที่สอง
แต่ห้วงเวลาลุ้นระทึก ก็ไม่พ้นช่วงต้นเดือน ก.ย.
การเมืองพลิกคว่ำพลิกหงาย ซ้ำเติมวิกฤติเกมอำนาจ
ทำประเทศไทยตกเป็นลูกไล่ แก๊งขแมร์ อย่างไม่น่าเชื่อ