สุดท้ายก็ไม่รอด คมเคียวศาลรัฐธรรมนูญ

เลขที่ออก 6 : 3 “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ของประเทศไทย และเป็นนายกฯรายที่ 6 แห่งขั้วอำนาจบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่ต้องกระเด็นตกเก้าอี้นายกฯ ไปด้วยพิษนิติสงคราม

ไล่ตั้งแต่นัมเบอร์วัน อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร, “ลุงหมัก”สมัคร สุนทรเวช, น้องเขย สมชาย วงศ์สวัสดิ์, มาถึงน้องสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, “เจ้าสัวนิด”เศรษฐา ทวีสิน, ล่าสุดเป็นคิวลูกสาวคนสุดท้อง

คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยคดีที่ สว. จำนวน 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรี ของนายกฯแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 106 (4) และ (5) หรือไม่ เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่าง นายกฯแพทองธาร กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หยิบยกประเด็นมาตรฐานทางจริยธรรมมาตอกย้ำ ที่ต้องสุจริตเป็นที่ประจักษ์ นายกฯต้องรักษาประโยชน์ประเทศมากกว่าประโยชน์ส่วนตน

ชี้ว่าการกระทำของ นายกฯอิ๊งค์ ย่อมทำให้วิญญูชนเข้าใจได้ว่าพร้อมทำตามข้อเสนอ ฮุน เซน เพราะรู้จักเป็นการส่วนตัว การขอความเห็นใจจาก ฮุน เซน ไม่ใช่เทคนิคเจรจา แต่มุ่งหวังผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่คำนึงผลประโยชน์ชาติ ทำให้เกียรติภูมิประเทศ และนายกฯเสียหาย ทำให้ประชาชนคนไทยเสียหาย ขาดความภูมิใจ ขาดความไว้วางใจนายกฯ ไม่พิทักษ์เกียรติภูมิ รักษาประโยชน์ชาติ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว คำนึงประโยชน์กัมพูชามากกว่า

การกระทำจึงเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง เมื่อพิจารณาถึงเจตนา จึงเป็นเรื่องร้ายแรง มีพฤติกรรมฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามจริยธรรม ทำให้ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165

วินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว นับแต่ 1 ก.ค.2568 ตั้งแต่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ ครม.พ้นทั้งคณะ

บรรยากาศก่อนถึงเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย ในเวลา 15.30 น. ที่ทำเนียบเป็นไปด้วยความคึกคัก นายกฯอิ๊งค์ควงมากับ สามี มีรัฐมนตรีเพื่อไทย และพรรคร่วม ทยอยตบเท้ามาให้กำลังใจ อาทิ สรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เลขาฯเพื่อไทย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคม พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.แรงงาน มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ชูศักดิ์ ศิรินิล จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง

ขณะที่รัฐมนตรีพรรคร่วม อาทิ พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.อุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม หัวหน้าพรรคกล้าธรรม วราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ เดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ชัยชนะ เดชเดโช รมช.สาธารณสุข

หันไปดูแก๊งสีน้ำเงิน ก็คึกคักเช่นกัน แกนนำพรรคภูมิใจไทย นำโดย เนวิน ชิดชอบ – อนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกฯ ของภูมิใจไทย ปักหลักในวอร์รูมเกาะติดสถานการณ์ โดยมีบรรดาสส.ของพรรค มากันพร้อมหน้า ที่สำคัญบ้านใหญ่เมืองมะขามหวาน นำทีมโดย วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ เมียสันติ พร้อมพัฒน์ นำลูกทีมสส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ก็มาร่วมวงวอร์รูมกับเขาด้วย

ส่องแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 32 ที่มีลุ้น นอกจาก ชัยเกษม นิติสิริ จากเพื่อไทยแล้ว ยังมี “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ตัดทิ้งไปก่อน) พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จาก รทสช. อีกคนที่กาชื่อทิ้งไปไม่ได้ “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล

เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเดินสายเคลื่อนไหวหนัก ทั้งปล่อยภาพนัดพบกับระดับบิ๊กธุรกิจพลังงาน ร่วมวงข้าวกับ “บิ๊กป้อม”ประวิตร วงษ์สุวรรณ ฯลฯ

เมื่อนายกฯแพทองธาร และครม. มีอันต้องพ้นจากตำแหน่งตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ขั้นตอนต่อไปคือกระบวนการเลือกนายกฯคนใหม่ จากนั้นคือการฟอร์มครม.ชุดใหม่ ตามรัฐธรรมนูญคือเช่นนั้น

แต่บ้านเรามันกลับตาลปัตร เป็นอันรู้กันว่ากระบวนการเร่งด่วนตอนนี้ คือการจับขั้วฟอร์มครม.ก่อน จากนั้นจึงซาวเสียงเลือกนายกฯ

สถานการณ์จากนี้คือฝุ่นตลบ เป็นการชิงดีลกันระหว่าง เพื่อไทย – ภูมิใจไทย

หลังจากค่ายส้ม “ไหม”ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน ออกมาย้ำจุดยืนแล้วว่า จะไม่ร่วมวงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

เกม Money – politics หรือธนกิจการเมือง คือตัวชี้ขาด

คณิตศาสตร์แห่งอำนาจ ชั่งกันด้วยน้ำหนัก.. กี่กิโล!!

-กระดูกเหล็ก