วันที่ 1 กันยายน 2568 กองทัพบก เปิดเผยรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่าเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.50 น. กำลังพลของกองร้อยอาวุธเบาที่ 1 กองพันทหารราบที่ 27 ตรวจพบการลอบวาง ระเบิดแสวงเครื่อง โดยทหารกัมพูชา บริเวณทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ห่างจากเนิน 350 ประมาณ 1.7 กิโลเมตร เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเขตไทยและถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง สร้างความตึงเครียดต่อความสัมพันธ์สองประเทศ

พบระเบิดแสวงเครื่องในเขตไทย

จากการตรวจสอบ พบว่ากับระเบิดแสวงเครื่องถูกประกอบด้วยลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดและลวดสะดุดซ่อนอยู่ใกล้แนวลวดหนามป้องกันตนเองในเขตแดนไทย ลักษณะดังกล่าวคล้ายกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ซึ่งฝ่ายไทยเคยตรวจพบทหารกัมพูชาลอบซุ่มในพื้นที่เดียวกัน และต่อมาตรวจพบ ทุ่นระเบิด PMN-2 จำนวน 3 ลูก พร้อมกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด 2 ลูก และตะปูเรือใบจำนวนมาก

รายงานชี้ว่าอุปกรณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มถูกนำมาใช้สร้าง ระเบิดแสวงเครื่อง เช่นเดียวกับที่ตรวจพบล่าสุด ตอกย้ำว่าฝ่ายกัมพูชายังคงใช้ยุทธวิธีวางทุ่นระเบิดและอาวุธลอบโจมตีอย่างต่อเนื่อง

กองทัพบกย้ำชัดเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุว่าหลักฐานทั้งหมดสะท้อนชัดเจนว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ชายแดนไทย การใช้ระเบิดแสวงเครื่องมีเจตนาสร้างความเสียหายต่อชีวิตกำลังพลไทย ถือเป็นการกระทำที่ยั่วยุและขัดแย้งกับท่าทีที่ฝ่ายกัมพูชามักอ้างต่อประชาคมโลกว่าปฏิบัติตามข้อตกลงและยึดมั่นสันติภาพ

โฆษกยังกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ขัดต่อ อนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามการใช้และสะสมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยมีหลักฐานยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงดังกล่าวมาโดยตลอด

กำชับเข้มปฏิบัติการพื้นที่ชายแดน

หลังเกิดเหตุการณ์ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการผ่านกองทัพภาคที่ 2 ให้กำลังพลทุกนายเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมจัดกำลังทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันความสูญเสียและรักษาความปลอดภัยของกำลังพล รวมถึงชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่ชายแดน