ความฝันกลางไร่ส้ม

ฤกษ์ไม่งาม ยามไม่ดีซักเท่าไหร่

ทำให้ นายกฯ“หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล จำต้องยกเลิกโปรเสริม ไม่บินไปโชว์แสดงวิสัยทัศน์ บนเวทีประชุมสมัชชาใหญ่ สหประชาชาติ(ยูเอ็น) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริก ในวันที่ 26 ก.ย. อดเปิดตัวบนเวทีนานาชาติที่ใหญ่ที่สุด เป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง นายกฯ คนที่ 32

อดโชว์ตัวบนเวทีโลก สู่สายตาประชาคมโลก และผู้นำประเทศต่างๆ

เพราะติดเงื่อนไข ยังไม่ได้แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา อาจเสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 162 ที่กำหนดให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต้องแถลงแนวนโยบายแห่งรัฐ ต่อที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

ตามไทม์ไลน์ที่ นายกฯอนุทิน วางไว้ จะเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อแถลงนโยบายในช่วงวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ ภายหลังนำ ครม.ชุดใหม่ เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ไปเมื่อ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา

เงื่อนเวลา 4 เดือน ตามกรอบ MOA ทำให้รัฐบาลชุดนี้ มีช่วงเวลาฮันนีมูนอันน้อยนิด ตารางงานจึงอัดแน่นไปด้วยโปรหลัก-โปรเสริม

ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองไทยที่วนลูป ก้าวไม่พ้นวงจรอุบาทว์ เพราะกฎ กติกา และผู้บังคับใช้ ยังอยู่ภายใต้ซากเดนรัฐประหาร ที่มองข้ามหัวประชาชน

นักการเมืองยังเล่นเอาเถิดเจ้าล่อ สนุกกับเกมชิงธงแก้ไขรัฐธรรมนูญ กฎหมายสูงสุดของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดอำนาจประชาชน เลือก ส.ส.ร. โดยตรง เข้ามายกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่พรรคการเมืองก็ยังถกเถียงกันไม่จบว่าจะใช้โมเดลของใครดี

ภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ แกนนำก๊วนน้ำเงิน ประกาศลั่น พรรคภูมิใจไทยจะยึดเอาโมเดลการแก้รัฐธรรมนูญปี 2539 ในการจัดทำรัฐธรรมนูญปี 2540

แต่เอามาเล่นแร่แปรธาตุกันใหม่ คือใครอยากจะเป็น ส.ส.ร. ก็ให้ไปสมัครในแต่ละจังหวัด แล้วให้ กกต.รวบรวมรายชื่อทั้งหมดของแต่ละจังหวัด เสนอให้รัฐสภาเลือกเหลือจังหวัดละ 1 คน เพื่อเป็นตัวแทนจังหวัด 77 คน

เอามาผสมกับกลุ่มนักวิชาการ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนักนิติศาสตร์ กลุ่มนักรัฐศาสตร์ และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ เลือกให้เหลือ 22 คน แบ่งเป็นสายนิติศาสตร์ 7 คน สายรัฐศาสตร์ 7 คน และสายผู้เชี่ยวชาญ 8 คน รวมเป็น ส.ส.ร. 99 คน เพื่อให้ ส.ส.ร. ไปสรรหากรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ 25 คน เพื่อมาทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ

ก็ไม่ใช่โมเดลรัฐธรรมนูญปี 40 ซะทีเดียว เพราะสมัยนั้น ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งจังหวัดละ 1 คน เอามาผสมกับกลุ่มนักวิชาการ และนักกฎหมายมหาชน มาเป็น ส.ส.ร. ทำหน้าที่ยกร่างฯ เป็นการเล่นแร่แปรธาตุ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

ยังไม่จบแค่นี้ ยังมีด่านสำคัญสุดอยู่ที่ สว. ส.ส.ร.จะตัดสายสะดือออกมาได้หรือไม่ ก็อยู่ที่ด่านนี้แหละ

อมพระมาพูดใครจะเชื่อ ที่ภูมิใจไทยออกตัวมาแต่ไกล ควบคุมเสียง สว. ไม่ได้ แต่ที่ผ่านมาการโหวตวาระสำคัญๆ ก็เห็นแต่ฝักถั่วชูกันสลอน

อยู่ดีไม่ว่าดี เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ไปรองนั่ง ดันเอากระดูกมาแขวนคอ คำพังเพยโบราณ แก๊งเด็ก(ส้ม)สร้างบ้าน คงไม่ใส่ใจ MOA ที่พรรคประชาชนเขียนเอาไว้สวยหรู ถูกขั้วน้ำเงินลบด้วยเท้าไปเรียบร้อย จะยกเหตุผลที่ต้อง ดีล(กับปีศาจ)รอบนี้ เพื่อผ่านทางตันประเทศ ก็คงขว้างงูไม่พ้นคอ

ขอย้ำอีกครั้งว่า “เสียของ” และจะส่งผลให้การเลือกตั้งรอบหน้า ผู้ที่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง จะกาช่อง “ไม่ประสงค์ลงคะแนน” อย่างมีนัยสำคัญ

ที่ “เท้ง”ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน ส่งสัญญาณผ่านสื่อระดับโลกอย่าง “นิตยสาร TIME” เสนอตัวว่าพร้อมแล้วที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำบริหารประเทศไทย

เปิดหน้าโชว์ตัวแคนดิเดตนายกฯ 3 ลำดับ จัดวางตัวรัฐมนตรีครบหมดทุกกระทรวง คึกเต็มที่กับศึกเลือกตั้งใหญ่ที่จะมาถึง

แต่คงเป็นได้เพียง “ความฝันกลางไร่ส้ม”

“ณัฐวุฒิ” จี้ ภท.-ปชน. รวมร่างแก้รัฐธรรมนูญ หวั่นล้มกลางทาง

“อนุทิน” ย้ำ ครม.นัดพิเศษ เน้นแก้ปัญหาเร่งด่วน 4 ด้าน เตรียมยุบสภาใน 4 เดือน