เอาฤกษ์เอาชัย กับตัวเลข 08.19 น. ของวันที่ 26 ก.ย. นายกฯ“หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ถือเป็นฤกษ์งามยามดี เข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาล อย่างเป็นทางการวันแรก
เริ่มที่สักการะพระพุทธรูปห้องทำงาน บนชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ต่อด้วยสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา-ยาย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล
ขอพรให้ทำงานด้วยความราบรื่น
ก่อนจะเข้าทำเนียบ ก็ได้นำพวงมาลัยเข้ากราบ “พ่อจิ้น” ชวรัตน์ ชาญวีรกูล และ แม่“ทัศนีย์ ชาญวีรกูล” มาแล้ว และฤกษ์ในวันนี้ทางศาสตร์จีน ถือเป็นวันเริ่มต้นที่ดี ตั้งแต่เวลา 09.00 น. วันสมพงษ์กับคนที่เกิดปีมะเมีย ซึ่งเป็นปีเกิดของนายกฯ“หนู”
ผ่านพ้นช่วงโปรลองงาน ในตำแหน่งนายกฯ คนที่ 32 มาเกือบจะครบเดือน หลังที่ประชุมสภาโหวตให้ด้วยเสียงท่วมท้น เมื่อ 5 ก.ย.
จะเริ่มนับหนึ่งตามกรอบเวลา 4 เดือน ใน MOA 29-30 ก.ย. ที่ครม.“หนู 1” จัดคิวแถลวนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาไว้ 2 วันเต็ม
บททดสอบแรกของ “รัฐบาลพิเศษ” ด้วย “สถานการณ์พิเศษ” กับเหตุถนนทรุดเป็นหลุมลึกวงกว้าง หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล วันเดียวกับที่ นายกฯอนุทิน นำครม.เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ
คนโบราณเขาก็พูดกันว่า “ธรณีสูบ” เขย่าขวัญ “รัฐบาลเทพอุ้มสม”
ดีที่ รฟม. และบริษัทรับเหมา รีบเด้งออกหน้ามาเคลียร์คัทจบเร็ว เลยผ่อนหนักเป็นเบาไปพอสมควร หลังเริ่มจะมีการขุดโยง บริษัทในกิจการร่วมค้า เอี่ยวธุรกิจครอบครัวของผู้นำ
นี่คือบททดสอบแรก ยังมีบททดสอบต่อไปจะทยอยตามมา โดยเฉพาะกรอบ MOA ใน “ดีลปีศาจรอบ 2”
ในร่างคำแถลงนโยบาย ตามสมุด“ปกน้ำเงิน” ความหนา 48 หน้า รัฐบาลอนุทิน ยึดหลักบริหารราชการแผ่นดินสำคัญ 3 ประการ
1. พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2. ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
3. ยึดมั่นหลักนิติธรรม บังคับใช้กฎหมายเป็นธรรม บริหารราชการแผ่นดินบนพื้นฐานธรรมาภิบาล
เร่งแก้ปัญหาประเทศ ทั้งภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยสังคม และภัยสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการวางรากฐานประเทศ พัฒนาความสามารถการแข่งขัน สร้างระบบเศรษฐกิจโปร่งใส สร้างความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยและสันติสุข สนับสนุนการจัดทำประชามติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

ที่ต้องโฟกัสคือโจทย์ด้านเศรษฐกิจ ต้องเร่งแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้านเฉพาะหน้า ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายชีวิตประจำวัน ค่าเดินทาง ค่าไฟฟ้า ฯลฯ
ซึ่งรัฐบาลเซราะกราวทำสัญญาประชาคมไว้ในสมุดปกน้ำเงิน จะไม่หารายได้กับการพนันถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะกาสิโน หรือพนันออนไลน์
โจทย์ยาก คือ ปัญหาที่หมักหมมมานาน รวมกับปมปัญหาใหม่ๆ ที่เริ่มก่อตัวขึ้น ทำให้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลกอย่าง มูดี้ส์ หน่วยงานจัดเรตติ้ง ชี้แนวโน้มมุมลบ มาก่อนหน้านี้ ล่าสุดเป็น “ฟิทช์ เรทติ้ง” ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือไทย เป็น “Negative” เช่นกัน และ เอสแอนด์พี อีกหนึ่งสถาบันจัดเรตติ้ง ก็คงไม่หนีกันเท่าไหร่
บ่งชี้สถานะ ประเทศไทยติดโซนแดง ความน่าเชื่อถือในสายตาชาวโลกติดลบ เพราะเศรษฐกิจไทยโตต่ำเป้ามานาน การคลังมีปัญหา หนี้สินท่วมประเทศ
ขณะที่ นายกฯอนุทิน มีความมั่นใจมากใน ดรีมทีมเศรษฐกิจ จะช่วยดึงความเชื่อมั่นกลับมาได้ ไปพร้อมกับการรุกเปิดตลาดใหม่เพิ่มขึ้น
ต้องรอดูว่า นโยบายเรือธง“คนละครึ่ง” ของรัฐบาลเซราะกราว ที่หวังจะให้เกิดแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ จะเข้าเป้าที่ตั้งไว้หรือไม่
ที่สำคัญ คือ จะป้องกัน พวกเสือหิวเสือโหย อย่างไร ลำพังกลุ่มรัฐมนตรีคนนอก คงไม่น่าห่วงเท่าไหร่ แต่ที่น่าหนักใจเห็นจะเป็นพวก รมต.โควตากลุ่มก๊วน รอลูบปากอยากจะฟาดเค้กก้อนนี้ กันเต็มแก่
ถ้า หนู-นัส-เฮ้ง เอาไม่อยู่ ถึงจะได้ถือตั๋ว ซูเปอร์ VVIP ก็คงไม่มีความหมาย
ฝันที่จะไปต่ออีก 4 ปี อาจสลายกลายเป็นฝุ่น


