“ดีลปีศาจ” น้ำเงินติดลมบน

เริ่มนับหนึ่ง เคาท์ดาวน์ 120 วัน กันไปแล้วตั้งแต่ 1 ต.ค.

ตามกรอบ MOA ที่ “นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ลงนามเอาไว้ใน “สมุดปกน้ำเงิน” กับพรรคส้ม ที่ต้องขีดเส้นใต้เอาไว้หลายๆ เส้น กับคำชี้แจงของ นายกฯหนู บันทึกไว้เป็นคำมั่นสัญญาต่อสาธารณชน

“นายกฯคนนี้ จะไม่มีใครบงการได้ คิดเอง หารือกับ ครม. และสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด เพื่อตัดสินใจทำประโยชน์สูงสุดให้ประเทศและประชาชน….. ที่กล่าวหารัฐบาลเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ พูดไม่ผิด ผมขอนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน ว่าให้นับวันที่ 1 ต.ค.เป็นวันแรก และวันที่ 31 ม.ค. ยุบสภาแน่นอน”

ถ้างาช้างไปงอกจากปากสุนัข ยึดตามสัจจะลูกผู้ชาย ประเทศไทยจะได้เลือกตั้งใหญ่กันราวปลายเดือนมี.ค. ไม่เกินต้นเดือนเม.ย.2569

ณ ตอนนี้นับว่า นายกฯหนู เครื่องร้อนสุดๆ หลังอุ่นเครื่องเดินสายโชว์ตัว กับกลุ่มธุรกิจภาคเอกชนกันเกือบครบทุกภาคส่วนแล้ว เรียกประชุม ครม.นัดพิเศษทันที ที่รัฐสภา ต่อจากวาระการแถลงนโยบายรัฐบาล ในวันสุดท้ายของปีงบประมาณ 2568 คือวันที่ 30 ก.ย.

เป้าหมายหลักคือทะลวงงบค้างท่อ งบกลางฯ ปี 68 วงเงินกว่า 6 หมื่นล้านบาท ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อนเส้นยาแดงวันสุดท้าย ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีแหล่งวงเงิน ไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

คำพูดอันสวยหรูของ นายกฯหนู “ในฐานะรัฐบาลเฉพาะกิจที่เข้ามาแก้ไขความเสียหายของประเทศที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลที่แล้วมา และครม.ของผมอีก 35 คน ทำทุกอย่างเพื่อเรียกความเสียหาย ความสูญเสีย เรื่องเกียรติภูมิของประเทศ เศรษฐกิจ ขวัญกำลังใจ ความปลอดภัยของประชาชน กลับมาสู่คนไทยในระยะเวลาทำงาน 4 เดือน ผมมั่นใจว่าทำได้”

พร้อมกับย้ำถึงวิธีการทำงาน เป็นคนทำเร็ว ต้องทำเลย และทำเป็น เพราะเป็นคนคัดสรรบุคคลให้มาเป็นรัฐมนตรีกับมือตัวเอง นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดที่รัฐบาลจะได้แสดงผลงาน

ระยะทางพิสูจน์ม้า เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์คน หลังวันที่ 31 ม.ค.69 ประชาชนคือผู้ให้คำตอบ

และจะเป็นการตอบโจทก์ว่า การตัดสินใจกับ “ดีลปีศาจ” ในรอบนี้ของก๊วนส้ม ประเทศไทยได้คุ้มเสียหรือไม่

โดยเฉพาะกับเงื่อนไขอันดับ 1 การแก้ไขกฎ-กติกา ที่กินไม่ได้ของประเทศไทย คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อมาฟังชัดๆ จากปาก บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ยืนกรานว่า “รัฐบาลนี้ไม่ต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่ต้องการสนับสนุนให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” ตามกรอบที่ศาลรัฐธรรมนูญวางเอาไว้ ไม่สามารถเลือก ส.ส.ร.โดยตรงจากประชาชนได้

ดังนั้นประชามติที่รัฐบาลจะทำวันเดียวกับวันเลือกตั้ง มีแค่ 2 คำถามเท่านั้น คือ 1.ประชาชนจะเห็นชอบให้มีการจัดทำฉบับใหม่หรือไม่ 2.ประชาชนจะเห็นชอบกับวิธีการและเนื้อหาสาระที่รัฐสภาทำร่างรัฐธรรมนูญมาแล้วสำเร็จเสร็จสิ้นมาแล้วตามมาตรา 256 อนุมาตรา 1 ถึงอนุมาตรา 6 โดยไม่มีการลงไปถึงเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมถึงพ่วงคำถามประชามติ เห็นควรยกเลิก MOU-43 และ MOU-44 กับกัมพูชาหรือไม่

เค้าลางแห่งความว้าวุ่นรออยู่ข้างหน้า ที่ประเทศไทยพร้อมจะซุกขยะไว้ใต้พรมต่อไป

เพราะดูเหลี่ยมไหน MOA ที่ทำไว้ก็ถูกฉีกกระจุยกระจาย ทั้งเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ การตีกรอบไม่ให้ “แก๊งเซราะกราว” ดูดสส.มาเติมเต็มเสียงรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ทุกวันนี้หัวกระไดบ้านเขากระโดงแทบไม่แห้งอยู่แล้ว บรรดา สส.ที่ไร้อุดมการณ์ พร้อมจะขายวิญญาณเปลี่ยนสีเป็น น้ำเงิน

สนามซ่อมศรีสะเกษ ที่เพิ่งผ่านไปแค่แซมเปิ้ล เลือกตั้งซ่อมทุกสนามในช่วงนี้ นายใหญ่เขากระโดงสั่งกวาดเรียบ ตอนนี้หัวไดโว่สีน้ำเงินเปิดรอไว้พร้อม โดยเฉพาะภาคอีสาน ที่มนต์ขลังพรรคนายใหญ่ หดหายไปพะเรอเกวียน เป็นดวงอาทิตย์ก็ใกล้อัสดงเต็มที

ใกล้ครบเงื่อนเวลา 4 เดือนเมื่อไหร่ ได้เห็น สส.พวกนี้ไหลมาเป็นน้ำแน่

เลือกตั้งรอบหน้าศึกสามสี แดง-ส้ม-น้ำเงิน ใครจะมาวิน คงไม่ต้องเดา

นิวยอร์กไทม์สแฉจีนส่งอาวุธกัมพูชาก่อนเหตุปะทะชายแดนไทย

พิพัฒน์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบฯ ย้ำภูมิใจไทยเตรียมเลือกตั้งใต้ล่วงหน้า