อาการของคนเหลิงลม ล้อกับกระแส “หุ้นบลูพอร์ต” พรรคสีน้ำเงินดีดเด้งดึ๋งดั๋ง
แต่พลาดหัวคะมำทำ ปืนลั่น จนได้ “รัฐมนตรี ลูกนก” ไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจฯ กะจะโชว์ฟอร์ม “เด็กมีของ” เปิดข้อมูลกลางวงประชุมรัฐสภา แถลงนโยบายรัฐบาล อ้างว่ามี “นายหน้า” มาเสนอสินบนตั้งแต่ชื่อยังอยู่ในโพยจะมานั่งเก้าอี้ รมว.ดีอี ยังไม่ได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
เสนอตัวเลข 40 ล้านต่อเดือน ดีลแก๊งสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์
กะจะกระแทกชิ่งใส่ อดีตรัฐบาลชุดที่แล้ว มีเรื่องทำนองนี้หรือเปล่า แต่กลายเป็นศรย้อนเข้าตัว ลูกเข้าแข้ง “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” อดีตรมว.ดีอี รัฐบาลชุดที่แล้ว ซัดเต็มข้อ จี้ให้เปิดเผยหลักฐาน ไล่บี้เอาผิดหาตัว “นายหน้า” คนนี้ให้เจอ
ไม่เช่นนั้นจะถือว่า เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ป.อาญา 157 รออยู่ข้างหน้า
“รมต.ลูกนก” ดีกรีลูกชาย “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ผู้นำจิตวิญญาณค่ายน้ำเงิน ต้องรีบกลบแผลสดๆ ขณะที่เลือดกำลังโชก
ฟอร์มกำลังเข้าตา เดินตามรอยผู้พ่อ สมบทดราม่าเจ้าน้ำตา คารมคมกริบไม่ต่างจากยุค “พ่อเนวิน” ไล่จับกระจง บนที่ดิน ส.ป.ก.ภูเก็ต เมื่อครั้งอดีต
งานนี้แค่รับน้องกันเบาะๆ ถึงยังไงก็คงไหลลื่นไปได้ ตามบทกลอนพาไป อ้างว่า ให้ละเอียดเพิ่มเติมไม่ได้ แต่ได้สั่งการปลัดกระทรวงดีอีไปแล้ว ส่วนอื่นยังพูดไม่ได้
แต่ข้อมูลจั๋งหนับ ตามขย่มซ้ำอยู่ที่ “รังสิมันต์ โรม” ประธานกมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ที่ติดตามต่อเนื่องกับปมแหล่งกาสิโน ฐานทัพใหญ่แก๊งอาชญากรรมไซเบอร์ ท่อน้ำเลี้ยงหลัก เครือข่ายอำนาจนำของกัมพูชา ไล่บี้ รมต.จัดการสินบนให้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นถือว่าไม่จริงใจปราบปราม “แก๊งโจรไซเบอร์”
มี วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ตัวจี๊ดร่วมค่ายส้ม ร่วมกันจัดชุดใหญ่เรียบเรียงข้อมูลทั้งเก่า-ใหม่ ที่ไล่ขุดคุ้ยข้อมูลลับๆ มาประกอบ พุ่งเป้าไปที่ ขบวนการต้นตุ๋นข้ามชาติ ขยายขอบเขตจากเขมรมาถึงฝั่งไทย ทั้งกอบโกยจากการต้มตุ๋น แฝงธุรกิจสีเทา ผ่ากระบวนการ “ฟอกเงินบาป”
โดยมีขุมทรัพย์พลังงาน ในพื้นที่รอยต่อเขตแดนทางทะเลเป็นตัวล่อ แต่เกลี่ยเค้กแบ่งปันความมั่งคั่งกันไม่ลงตัว ก็เลยวงแตกแยกทางกัน
เชื่อมโยงทั้งผู้มีอำนาจของ 2 ประเทศ นักธุรกิจ นักวาณิชธนกิจ เซียนตลาดหุ้น ลากโยงไปถึงอดีตรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีหน้าใหม่
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เป็นผลประโยชน์ที่มีบุคคลสำคัญๆ มีเอี่ยวกันหลายคน แต่ท่าทีรัฐบาลดูไม่รู้ร้อนรู้หนาว คนที่ถูกพาดพิงไปมุดไปน้ำขุ่นๆ และที่น่าห่วงคือท่าทีชิวๆ ของท่านผู้นำ
แม้ในยุคนี้ รัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล จะโยนภาระงานด้านความมั่นคงไปไว้ที่กองทัพทั้งหมด โดยเฉพาะปมข้อพิพาทไทย-เขมร ให้ “กองทัพนำ” การเมืองเดินตาม รัฐบาลเป็นแค่กองหนุน
ทำให้โดนตั้งคำถามหนักคือ รัฐบาลจะลอยตัวเหนือปัญหาไม่ได้ การตัดท่อน้ำเลี้ยงสีเทาของแก๊งผู้นำเพื่อนบ้าน ตัดไฟ ตัดน้ำมัน ตัดอินเตอร์เน็ต คุมเข้มจริงจัง หรือปล่อยให้ตัดๆ ต่อๆ กันอยู่
ทำสังคมข้องใจ ระดับผู้นำแสดงท่าทีเท่าที่เห็น ไม่เแอ็กชั่่นร้อนแรงเหมือนเรื่องอื่น
ตกเป็นผู้ต้องสงสัย จริงใจจะปราบแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์จริงหรือเปล่า หรือเพราะมั่นใจในพลังแห่งลมใต้ปีก ที่ช่วยแบกอุ้มกันขึ้นเสลี่ยง
เป็นคำถามที่ต้องรอคำตอบกันต่อไป
แต่ที่เริ่มจะเก็บหางไม่มิดก็ มีเสียงซุบซิบผู้นำจิตวิญญาณ ส่ง “เสี่ย จ.” เด็กใต้ถุนบ้านเขากระโดง เอาตาชั่งกิโลไปตั้งในกระทรวงใต้สังกัด
ไว้เป็น “มันนี่เฮลิคอปเตอร์” กันในช่วงเลือกตั้ง…?
