วันที่ 9 ตุลาคม 2568 — ที่รัฐสภา การประชุม คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นประธาน ได้หยิบยกกรณี “เบน สมิธ” และขบวนการฟอกเงินเชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์กัมพูชาเข้าหารือ โดยเชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงหลายแห่งเข้าชี้แจง แต่ไร้เงา 3 รัฐมนตรี ที่ถูกเชิญมาชี้แจง ทำให้นายโรมประกาศชัดว่า “ขอปฏิเสธการส่งตัวแทน” และยืนยันว่าผู้ถูกกล่าวถึงต้องมาด้วยตนเอง
กมธ.มั่นคงฯ เปิดเวทีสอบโยง “เบน สมิธ” ฟอกเงิน–คอลเซ็นเตอร์
การประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร มีวาระสำคัญในการติดตาม ขบวนการฟอกเงินของกลุ่มทุนกัมพูชา ที่เชื่อมโยงกับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งถูกระบุว่ามีความเชื่อมโยงกับ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือที่รู้จักในชื่อ “เบน สมิธ”
นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า ประเด็นดังกล่าวมีผลกระทบโดยตรงต่อ “ความมั่นคงของชาติ” และยังเกี่ยวพันกับกรณี การก่อสร้างอาคารสแกมเมอร์รุกล้ำชายแดนจังหวัดตราด ซึ่งอาจเข้าข่ายละเมิดอธิปไตยของไทย จึงจำเป็นต้องเชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจเข้าชี้แจงโดยตรง

หน่วยงานความมั่นคง–การเงินร่วมแจงครบ ยกเว้น 3 รมต.
คณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหลายแห่ง ได้แก่
- กองทัพเรือ นำโดย พล.ร.ท.วศิน สระศรีดา เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ
- สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นำโดย นายอภินันท์ นวลสุวรรณ์ ผู้อำนวยการส่วนวิเคราะห์ข่าวกองทางการเงิน
- สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
- สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)
- กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.)
นอกจากนี้ ยังมี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน และ น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการด้านการเงิน เข้าร่วมสังเกตการณ์และแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วย
อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้กลับไม่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และ นายไชยชนก ชิดชอบ ซึ่งถูกเชิญมาให้ข้อมูล เนื่องจากมีการส่ง “หนังสือแจ้งติดภารกิจ” และมอบหมายตัวแทนมาชี้แจงแทน
“โรม” ปัดไม่รับตัวแทน รมต. ย้ำต้องมาชี้แจงเอง
นายรังสิมันต์ โรม เปิดเผยต่อที่ประชุมว่า ได้รับหนังสือจาก นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ แจ้งว่าติดภารกิจตรวจโรงเรียน พร้อมแนบกำหนดการแนบมาด้วย ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรฯ มาชี้แจงแทน
นายโรมกล่าวย้ำว่า ในหนังสือเชิญของคณะกรรมาธิการได้ระบุชัดเจนว่า ขอให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง “ด้วยตนเอง” เพื่อความชัดเจนและตรวจสอบได้โดยตรง พร้อมระบุว่า “หากส่งเจ้าหน้าที่กระทรวงมาแทน ก็คงตอบคำถามไม่ได้ในประเด็นสำคัญที่สังคมต้องการคำอธิบาย”
เขายังย้ำว่าคณะกรรมาธิการจะไม่รับ “ทนายความหรือผู้แทนทางการเมือง” มาชี้แจงแทนผู้ถูกเชิญ เพราะประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติและความเชื่อมโยงทางการเงินระดับนานาชาติ
ขยายสอบนโยบายแก้คอลเซ็นเตอร์–สแกมเมอร์ หลัง “ไชยชนก” เบี้ยวแจง
สำหรับวาระต่อไป นายรังสิมันต์ระบุว่า คณะกรรมาธิการจะพิจารณา แนวนโยบายแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ในไทย โดยเฉพาะกรณีที่ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เคยให้สัมภาษณ์ถึงการ “เสนอผลประโยชน์เพื่อไม่ดำเนินคดีกับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์” ซึ่งสร้างข้อสงสัยในสังคม
แม้จะได้รับหนังสือจากนายไชยชนกว่าได้ให้ปากคำกับตำรวจแล้ว และติดภารกิจอื่นโดยไม่ระบุรายละเอียด แต่นายโรมเห็นว่า เรื่องนี้ควรมีการชี้แจง “ด้วยตัวบุคคล” เพื่อสร้างความชัดเจนและความเชื่อมั่นต่อประชาชน
“ศิริกัญญา–วิโรจน์–สฤณี” ร่วมสังเกตการณ์ ย้ำต้องเปิดข้อมูลโปร่งใส
บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างเข้มข้น โดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และ น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล ร่วมฟังการชี้แจงอย่างใกล้ชิด พร้อมเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดเผยข้อมูลการเงินและความเชื่อมโยงข้ามชาติของกลุ่มทุนต่างประเทศที่อาจเป็นภัยต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของไทย
ทั้งสามเห็นตรงกันว่า รัฐบาลควรเร่งสร้างกลไกตรวจสอบแบบบูรณาการ เพื่อให้สามารถติดตามเส้นทางการเงินของเครือข่ายสแกมเมอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น