พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยความคืบหน้าคดีสำคัญ 2 คดี ได้แก่ คดีฮั้วเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และ คดีบุกรุกพื้นที่เขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยยืนยันว่า กรมฯ เร่งรัดดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด เพื่อพิสูจน์การเชื่อมโยงการกระทำผิด และเตรียมเสนอให้อัยการพิจารณาดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงิน DSI เร่งตรวจเส้นทางการเงิน คดีฮั้วเลือกตั้ง ส.ว. เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม 2568 ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงความคืบหน้าคดี “ฮั้วการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา” ซึ่งอยู่ในความสนใจของสาธารณชน โดยระบุว่ากรมฯ ได้ตรวจสอบพบพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดฐาน อั้งยี่และฟอกเงิน ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนของ DSI กำลังติดตามตรวจสอบ เส้นทางการเงิน ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด เพื่อพิสูจน์ว่ามีเงินจากการกระทำผิดกฎหมายหมุนเวียนอยู่ในระบบหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นพบข้อมูลบางส่วนที่มีลักษณะเชื่อมโยงกับขบวนการที่สงสัยว่า “สมคบคิด” กันในการเลือกตั้ง พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรมฯ อยู่ระหว่างการนัดหมายเพื่อประชุมร่วมกับพนักงานอัยการ เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินคดีในประเด็นฟอกเงินโดยเฉพาะ โดยยังไม่ได้มีการประชุมครั้งสุดท้าย เนื่องจากต้องรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคและหลักฐานเพิ่มเติมให้ครบถ้วนก่อนเสนอให้อัยการพิจารณา สอบพยานหลายปาก – ย้ำรวบรวมหลักฐานรัดกุมก่อนส่งอัยการ อธิบดี DSI เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวได้มีการสอบปากคำพยานไปแล้วหลายราย แต่ข้อมูลที่ได้รับยังไม่สามารถเชื่อมโยงเป็นหลักฐานที่ชัดเจนต่อรูปคดี จึงจำเป็นต้องสืบสวนเชิงลึกเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ชัดก่อนเสนอความเห็นต่อพนักงานอัยการ เขาย้ำว่า DSI จะดำเนินคดีอย่างรอบคอบ โดยให้ความสำคัญกับ หลักฐานทางการเงินและเอกสารธุรกรรม ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมและปราศจากแรงกดดันทางการเมือง คดีเขากระโดงยังไม่จบ – อยู่ในขั้นสืบสวนเบื้องต้น สำหรับ คดีเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นคดีร้องเรียนเกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ของรัฐ และการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนเบื้องต้น และยังไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษแต่อย่างใด กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังแสวงหาพยานหลักฐานและประสานข้อมูลจากหน่วยงานรัฐในพื้นที่ เพื่อพิสูจน์ว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิ์หรือไม่ โดยเฉพาะในกรณีเอกสารที่ออกมานานหลายสิบปี ซึ่งต้องพิจารณาตามหลักกฎหมายว่าหมดอายุความหรือยัง DSI ยืนยันทำงานโปร่งใส – ยึดหลักนิติธรรม พ.ต.ต.ยุทธนา ย้ำว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการด้วยความโปร่งใสและยึดหลัก นิติธรรม (Rule of Law) โดยคำนึงถึงพยานหลักฐานที่ชัดเจนและตรวจสอบได้ เพื่อให้การดำเนินคดีทั้งในคดีฮั้วเลือกตั้ง ส.ว. และคดีเขากระโดง เป็นไปอย่างเป็นธรรมและไม่กระทบสิทธิของผู้เกี่ยวข้อง “กรมสอบสวนคดีพิเศษมีหน้าที่ตรวจสอบและดำเนินคดีที่ซับซ้อนและกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นคดีทุจริต ความผิดทางเศรษฐกิจ หรือกรณีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ เราจะทำงานด้วยความรอบคอบและยึดมั่นในความยุติธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน” อธิบดี DSI กล่าวทิ้งท้าย
