อุดมการณ์ “มาร์ค” กับ “ระบอบเซราะกราว”

ถอดรหัสเกมการเมืองไทย “หนู อนุทิน” ส่งสัญญาณยุบสภาก่อนครบวาระ 4 เดือน ท่ามกลางการขยับของทุกขั้วอำนาจ ขณะ “มาร์ค อภิสิทธิ์” กลับมาพร้อมอุดมการณ์ประชาธิปไตยในยุค “ระบอบเซราะกราว”

ถอดรหัสมอสจากคำสัมภาษณ์ นายกฯ“หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล

ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการยุบสภาก่อนครบกำหนด 4 เดือน ตาม MOA ที่ย้ำว่าเรื่องการยุบสภาเป็นอำนาจของนายกฯ…

“ถ้าผมอยากจะหนี ผมก็หนี ถ้าผมอยากจะอยู่ ผมก็อยู่ เพราะผมรู้ว่าวันสุดท้ายของผมถึงวันไหน แต่ถ้าเกิดดูแล้วมันไม่ไหว มันก็มีอำนาจของความเป็นนายกฯอยู่… ถ้าไปไม่ไหวจริงๆ เราก็คืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชน”

ก่อนหน้านี้ นายกฯ“หนู” ประกาศพร้อมเต็มที่กับศึกเลือกตั้งใหญ่ หลังจากเอาชนะเลือกตั้งซ่อมมา 2 สนามซ้อน ทั้งที่ ศรีสะเกษ ล่าสุดก็กาญจนบุรี ถล่มคู่เวรคู่กรรม เพื่อไทย มาแบบถล่มทลาย

บวกกับการวางเกมจัดแถวข้าราชการ โดยเฉพาะฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่เพิ่งจะปูนบำเหน็จเครือข่ายข้าราชการ “สิงห์น้ำเงิน” กันบิ๊กล๊อต เพื่อความได้เปรียบสูงสุดในการจัดการเลือกตั้ง

รวมไปถึงการแต่งตั้งบุคคลเข้าสู่องค์กรอิสระ ที่ต้องผ่าน “มือฝักถั่ว” ของสว.สีน้ำเงิน

วันก่อนที่ประชุมวุฒิสภา เพิ่งจะให้ความเห็นชอบ อนันต์ สุวรรณรัตน์ อดีตปลัดกระทรวงเกษตรฯ และ ณรงค์ รักร้อย อดีตผวจ.อุทัยธานี เป็นกกต.ใหม่ ด้วยมติเสียงท่วมท้น โดยอดีตปลัดกระทรวงเกษตรฯ ได้เสียงเห็นชอบไป 137 คะแนน ขณะที่อดีตผู้ว่าฯอุทัยธานี ได้ 135 คะแนน

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เครือข่ายฝ่ายการเมืองสีน้ำเงิน “ระบอบเซราะกราว” ติดลมบน

เวลาไม่คอยท่า นับถอยหลังเข้าสู่การยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ทุกพรรคก็ต้องเร่งเตรียมความพร้อมเช่นกัน อีกพรรคที่ระดมกำลังเสริม คือกล้าธรรม ของ “ผู้กอง” ธรรมนัส พรหมเผ่า กวาดต้อนไพล่พลรับศึก

จ่อหัวดูดใส่ “ไขยา พรหมา” รองประธานสภา สส.หนองบัวลำภู ด้วยความที่ซี้ปึ้กกันมานาน ที่สำคัญสนามการเมืองหนองบัวลำภู ตกเป็นภายใต้ปีกของ “ผู้กอง” โดยมีนายกอบจ.หนองบัวลำภู อยู่ในสังกัด

กล้าธรรม วางสมการตัวเลขไว้ที่ พร้อมเสียบเป็นรัฐบาลได้กับทุกขั้ว

ในขณะที่ต้นสังกัดปัจจุบัน เพื่อไทย สถานการณ์นับวันรออัสดง

แม้แต่ อดีตนายกฯ“อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ก็ยังไม่สามารถแบกรับภาระอันหนักอึ้งนี้ได้ ต้องยอมทิ้งธงนำพรรคเพื่อไทย เปลี่ยนมือให้คนใหม่มาถือแทน

จุดตัดสินใจคือวันที่ “อิ๊งค์” ควง “เอม” พินทองทา ชินวัตร” พี่สาว เข้าเยี่ยมบิดา ทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกคุมขังอยู่ในคุกบางขวางมาครบ 6 สัปดาห์ ทันทีที่กลับมาจากอังกฤษ มีรายงานว่าวันนั้นคือจุดที่ “ลูกสาวคนเล็ก” เคลียร์คัทกับพ่อ ถึงเวลาต้องปล่อยธง เพราะขืนลากไปก็มีแต่จะพากันดิ่งเหว

แต่รอบนี้ เพื่อไทย ปิดข่าวมิด ไม่มีกระเซ็นกระสายรายชื่อแคนดิเดตหัวหน้าพรรคออกมา มีแต่ให้สื่อคาดเดากันเอง

“นายใหญ่” ก็คือ “นายใหญ่” แม้จะอยู่ในช่วงตกต่ำสุดๆ ในตอนนี้ การวางยุทธศาสตร์เลือกตั้งไม่มีต่ำกว่าระดับ “ท็อปทรี” แน่ รอแค่ วัน ว. เวลา น. เปิดตัวผู้นำพรรคคนใหม่ ก็จะเข้าใจกันกระจ่าง

ขณะที่อีกหนึ่งตัวเต็ง ค่ายส้ม ยังไม่เปิดเกมหวือหวา ณ วันนี้ ยังยังเดินการเมืองไปตาม ตารางงานรูทีน แต่เกมถนัดของค่ายส้ม คือรอปั่นกระแสหลังมี พ.ร.ฎ.ยุบสภาเลือกตั้งใหม่

ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า การทำ “ดีลปีศาจ” กับก๊วนน้ำเงินหนนี้ ทำเอาความเชื่อมั่น-ศรัทธา แฟนครับหดหายไปเยอะ รอดูจะพลิกวิกฤติเป็นโอกาสอย่างไร

อีกหนึ่งตัวแปร พรรคประชาธิปัตย์ ดูคึกคักกับการรีเทิร์นของ “หัวหน้ามาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ การดึงคนระดับมือเศรษฐกิจยุคใหม่ มาร่วมทีม ต้องยกเครดิตให้กับ “หัวหน้ามาร์ค” เต็มๆ แต่การต้องเข้ามาอยู่ในองค์กรการเมืองเก่าแก่ ในคราบสถาบันการเมือง

ก็ไม่รู้ว่าคนใหม่ๆที่เข้ามา จะถูกระบบเก่าแก่กลืนกินหรือไม่

ที่สำคัญคือการรีเทิร์นรอบนี้ “หัวหน้ามาร์ค” เน้นย้ำเรื่องอุดมการณ์มาเป็นอันดับแรก

แต่การถูก นายกฯ“หนู” จับมัดข้าวต้มเป็นพันธมิตรร่วมรัฐบาลกันในอนาคต

จะสร้างความตะขิดตะขวงใจบ้างหรือไม่ เพราะในยุคที่ต้องต่อสู้กับระบอบทักษิณ ที่กินรวบอำนาจ มายุคนี้ต้องมาร่วมผสมพันธุ์กับ “ระบอบเซราะกราว” กินรวบประเทศไม่ต่างกัน

ไปสะกิดต่อม “อุดมการณ์” หัวหน้า“มาร์ค” บ้างหรือไม่


📰 อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ The Mainstream

สำนักพระราชวังประกาศ “สมเด็จพระพันปีหลวง” เสด็จสวรรคต

ทำเนียบลดธงครึ่งเสา ไว้อาลัยพระพันปีหลวง อนุทินยกเลิกบินถกอาเซียน