พรรคภูมิใจไทยของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ตกเป็นเป้าซักฟอกรอบใหม่ หลังฝ่ายค้านนำโดยเพื่อไทยเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเดือนธันวาคม จับตาเสี่ยหนูอาจชิงยุบสภาก่อนเปิดศึก เปลี่ยนหัวขบวนคนใหม่ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ ขยับขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนล่าสุด
ตามแนวทางการฟื้นฟู ยกเครื่องใหญ่พรรคเพื่อไทย แต่ไม่รู้จะห้ามเลือดหยุดไหลได้หรือไม่
สถานการณ์ที่ค่ายแดงต้องเร่งกู้ความเชื่อมั่น รีเซตเครื่องครั้งใหญ่ หาผู้นำคนใหม่ แทนแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรค แก้เกมแบรนด์ “ชินวัตร”ขายต่อลำบาก จากผลพวงวิกฤติความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา
ส่งมวยแทนตระกูลชินฯ“จุลพันธ์”ตัวแทนตระกูลชินฯสลับมายืนหัวแถว คุมทัพเลือกตั้งรอบหน้า ชื่อชั้นแม้ไม่ร้องว้าว แต่เป็นตัวเลือกที่ดีสุดท่าที่เหลือในสต๊อก ทำหน้าที่ตัวเชื่อมคนรุ่นเก่า -คนรุ่นใหม่ในพรรค ขับเคลื่อนพรรคช่วงกระแสขาลง ลดแรงปะทะจากสังคมที่ยังขุ่นเคืองจากข้อพิพาทการสู้รบไทย-กัมพูชา
ความเป็น “ชินวัตร”ไม่ยอมปล่อยมือจากพรรคเพื่อไทย แค่หลบจากหน้าฉากไปอยู่หลังฉาก คุมกลไกการบริหารแบบเงียบๆ เพราะชื่อหัวหน้าพรรคนใหม่คือ คนวงในที่ทุกสายของตระกูลชินฯสามารถสั่งได้
ไฟต์บังคับที่มีผลต่อเกมเดิมพันอำนาจในอนาคต กดดันทีมรังจันทร์ส่องหล้าต้องส่งเด็กในคาถามาขัดตาทัพ เป็นเซฟโซนรักษาอำนาจในพรรค ไม่ให้หลุดมือ
ตามโจทย์ใหญ่เฉพาะหน้าเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นจากประชาชนคือ การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยหน้าในเดือนธ.ค.
คิวที่แม่ทัพใหม่เพื่อไทยต้องโชว์ให้เห็นไม่ได้อยู่ใต้ใบสั่งใคร เตรียมลับดาบ จับรัฐมนตรีสีเทาขึ้นเขียงอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงที่รัฐบาล “นายกฯหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กำลังเสียทรง ความเชื่อมั่นติดลบหนัก
ต้องฉวยจังหวะกู้ภาพลักษณ์ เปิดแผลรัฐมนตรีสีเทาเข้ม เรียกความเชื่อมั่นประชาชนกลับคืนมาเบียดแย่งคะแนนจากพรรคประชาชนกลับมา
อย่างที่เห็นฉากโหมโรงพรรคเพื่อไทยปั่นกระแสชาตินิยม ลุยทุบพรรคภูมิใจไทยหนักหน่วง ทั้งการปราบแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ โยงรัฐมนตรีสายล่อฟ้าในรัฐบาล ปมแร่มุบมิบเซ็นสัญญาแร่แรร์เอิร์ธกับสหรัฐฯ
หรือกรณีปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ “นายกฯหนู”พลั้งปากบอกบางทีไทยก็ไปล้ำแดนกัมพูชา กลาย เป็นกระแสตีกลับ เล่นงานนายกฯสะบักสะบอมต้องออกมาแถลงขอโทษ
เพื่อไทยจ่อรุกหนัก ปลุกความรู้สึกรักชาติของคนไทยตลอดทั้งเดือนพ.ย. เลี้ยงกระแสรอไว้ยื่นซักฟอกรัฐบาลตอนเปิดสภาฯเดือนธ.ค.
ภูมิใจไทยโดนทั้งปัญหาสแกมเมอร์ เอ็มโอยูแร่แรร์เอิร์ธ ความมั่นคงชายแดนล้อมกรอบ มีโอกาสถูกยื่นซักฟอกสูงมาก ยิ่งถ้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้สนับสนุนค่ายน้ำเงินตั้งรัฐบาล ร่วมลงสนามอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ใครถูกขึ้นบัญชีดำจับขึ้นเขียง มีโอกาสตกเก้าอี้สูงมาก เพราะเสียงสส.ในสภาเป็นรอง
ขึ้นอยู่กับฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะ หรือรายบุคคล ต้องรอวัดใจค่ายส้มจะร่วมสังฆกรรมขึงพืดรัฐบาลในรอบนี้หรือไม่ และ “นายกฯหนู”จะติดอยู่ในบัญชีถูกซักฟอกหรือไม่
แนวโน้มสูง “เสี่ยหนู”อาจตัดสินใจชิงยุบสภาแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่เดือนธ.ค. แค่ได้กลิ่นยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจโชยมาแตะจมูก ไม่รอให้มีการยื่นญัตติซักฟอก
ไม่จำเป็นต้องสนใจข้อตกลงเอ็มโอเอแก้ไขรัฐธรรมนูญจะดำเนินการเสร็จหรือไม่
พรรคภูมิใจไทยเสี่ยงให้เปิดอภิปรายไม่ได้ เพราะเดาใจพรรคประชาชนไม่ได้ จะโหวตให้รอดหรือร่วง หากยืมจมูกคนอื่นหายใจอาจทำให้รัฐบาลล้ม สูญเสียอำนาจ
สถานการณ์ส่อเจอซอยตัน โดนกระหน่ำทุบ บีบให้ชิงยุบสภา แล้วไปวัดดวงใหม่
