วิกฤตน้ำท่วมอยุธยา! เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำสูงสุด 2,900 ลบ.ม./วินาที ท่วม 11 อำเภอ 59,000 ครัวเรือน ถนนจม ร้านอาหารหยุดขายยาวกว่า 3 เดือน
สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ยังคงวิกฤติ หลัง เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท เพิ่มการระบายน้ำสูงสุดแตะ 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำกว่า 11 อำเภอ รวมกว่า 59,000 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ ถนนหลายสายจมอยู่ใต้น้ำ ร้านอาหารและธุรกิจท่องเที่ยวหยุดชะงัก ขณะที่หน่วยงานชลประทานเตือนให้ประชาชนริมตลิ่งเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด
น้ำเจ้าพระยาเอ่อสูงต่อเนื่อง ท่วมหนัก 11 อำเภอในอยุธยา
รายงานจากพื้นที่เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ระบุว่า หลังจาก เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ปรับเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและลำน้ำสาขาเพิ่มสูงต่อเนื่อง น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวสองฝั่งแม่น้ำ
ขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 11 อำเภอ ได้แก่ เสนา, ผักไห่, บางบาล, บางไทร, พระนครศรีอยุธยา, บางปะอิน, บางปะหัน, บางซ้าย, บ้านแพรก, ลาดบัวหลวง และ มหาราช รวม 143 ตำบล 945 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อนกว่า 59,490 ครัวเรือน โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุสาธารณภัยครั้งนี้แล้ว 14 ราย
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมจัดตั้งศูนย์อพยพและจัดรถขนส่งสาธารณะให้บริการฟรีในบางพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
ถนน–จุดกลับรถจม น้ำสูง 40 เซนติเมตร ปิดการจราจรชั่วคราว
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ถนนสาย 347 อยุธยา–ปทุมธานี บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา พบว่าระดับน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมสูงกว่า 30–40 เซนติเมตร รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เจ้าหน้าที่ต้องปิดจราจรชั่วคราวและจัดเส้นทางสำรองให้ประชาชนใช้เดินทางแทน
ถนนเชื่อมระหว่างอำเภอเสนา–ผักไห่ และบางบาล–บางไทร ก็ถูกน้ำท่วมขังเช่นกัน การสัญจรต้องจำกัดเฉพาะรถขนาดใหญ่ ขณะที่สำนักงานทางหลวงได้ติดตั้งแนวกั้นน้ำชั่วคราวและจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ชาวบ้าน–ผู้ประกอบการเดือดร้อน ร้านอาหารหยุดขายกว่า 3 เดือน
หนึ่งในพื้นที่ได้รับผลกระทบคือร้านอาหารชื่อดัง “แอบแซ่บ” ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงหลายเมตร นางสุรัชต์ วงสุขกำ อายุ 62 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ต้องหยุดขายมากว่า 3 เดือนเพราะน้ำท่วมซ้ำซาก
“ตอนนี้หมดแรงจริง ๆ ค่ะ ยกของหนีน้ำก็ไม่พ้น ข้าวของที่วางบนถนนก็ถูกน้ำท่วมอีก ต้องหยุดขายมานาน รายได้หายทุกวัน” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า พร้อมเผยว่าชาวบ้านในชุมชนต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน หลายครอบครัวต้องอาศัยอยู่บนชั้นสองของบ้านหรือย้ายออกชั่วคราว
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัด ซึ่งถือเป็นแหล่งรายได้หลักของอยุธยา โดยเฉพาะร้านอาหารและเรือท่องเที่ยวริมแม่น้ำที่ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว
ชลประทานเตือนเฝ้าระวังน้ำจากตอนบน ไหลต่อเนื่องสู่ภาคกลาง
กรมชลประทานรายงานว่า ปริมาณน้ำจากพื้นที่ตอนบนของภาคเหนือและภาคกลางตอนบนยังคงไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าระดับน้ำจะทรงตัวสูงไปจนถึงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน พร้อมเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะริมแม่น้ำเจ้าพระยาใน 11 อำเภอ ให้ติดตามประกาศเตือนภัยและงดทำกิจกรรมในพื้นที่ใกล้ตลิ่ง
เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมในหลายจุด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลามเข้าสู่เขตเมืองและแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด
ความช่วยเหลือเร่งด่วน–รัฐบาลเตรียมมาตรการเยียวยา
ในส่วนของความช่วยเหลือเบื้องต้น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกับหน่วยงานราชการและภาคเอกชนเร่งจัดถุงยังชีพและน้ำดื่มแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัย ขณะเดียวกันกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างจัดทำบัญชีรายชื่อครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อเสนอขอรับงบเยียวยาจากรัฐบาล
หน่วยงานในพื้นที่ยังเร่งสำรวจความเสียหายของบ้านเรือน ถนน และระบบสาธารณูปโภค เพื่อวางแผนฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยเน้นให้การช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและโปร่งใส
