วิกฤติชายแดนไทย–กัมพูชา การระงับเจรจาการค้าจากสหรัฐฯ กดดันรัฐบาลอนุทิน ขณะที่ฝ่ายแค้นเพื่อไทยก็เผชิญปัญหา โมเดลแก้รัฐธรรมนูญ 20 หยิบ 1 ติดหล่มแถมด้วยสภาวะสส.ไหลออกไม่หยุด
ทรงๆทรุดๆสถานการณ์เกมอำนาจ“นายกฯหนู”อนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย
ล่าสุดเพิ่งเสียทรงถูกรุมประฌามความล้มเหลวการบริหารจัดการข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา กรณีผู้แทนการค้าสหรัฐเมริกาแจ้งระงับการเจรจาข้อตกลงภาษีการค้าไทย-สหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว เพราะรัฐบาลไทยไม่ดำเนินการตามถ้อยแถลงสันติภาพไทย-กัมพูชา
ผลพวงอาการปากไว “นายกฯหนู”สั่งระงับฏิญาณสันติภาพไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระบาดฝ่ายกัมพูชา ขาขาดเป็นรายที่7 เสมือนหักหน้า “โดนัลด์ ทรัมป์”ที่เป็นตัวกลางเจรจาสร้างสันติภาพ 2ประเทศ
เข้าทางฝ่ายค้านรุมถล่ม ขาดความรอบคอบ ไร้สติ และวุฒิภาวะความเป็นนายกฯ หลงเหลี่ยมเขมร เป็นฝ่ายฉีกข้อตกลงสันติภาพเอง เข้าทางกัมพูชาที่จ้องล้มพันธสัญญาระหว่างประเทศอยู่แล้ว เพราะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบที่กำลังถูกรุมทุบหม้อข้าวจากความร่วมมือปราบแก๊งสแกมเมอร์ และร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด
“นายกฯหนู”เสียรังวัด ตอบสนองการแก้ปัญหาประเทศด้วยการใช้อารมณ์ เกมพลิกหันมาส่งผลกระทบเศรษฐกิจไทยสั่นคลอน เผชิญแรงกดดันทางการค้าจากสหรัฐฯ
ทัวร์ลงยับ ต้องรีบชี้แจงตอบโต้ข้อกล่าวหา ยืนยันประเด็นการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯยังเดินหน้าต่อได้ โดยแยกออกจากปัญหาข้อพิพาทชายแดน
หัวแถวยันลูกแถวรัฐบาลสีน้ำเงินรับรองแข็งขัน ประเทศไทยไม่ตกที่นั่งเสียเปรียบทางเศรษฐกิจ เพราะไม่สามารถนำเรื่องความมั่นคงชายแดนมากดดันการเจรจาภาษีการค้าได้
สถานการณ์ความมั่นคงชายแดนกลับมาตั้งเค้าระอุระลอกใหม่ ถูกจับตาใกล้ชิด ต้องแก้เกมใหม่คอยบาลานซ์ให้สมดุล ไม่ให้ไปกระแทกระบบเศรษฐกิจประเทศรวนตามไปด้วย
ขณะที่ปัญหาการเมืองในประเทศ “นายกฯอนุทิน”ก็ต้องคุมเกมให้ดี ทั้งเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ และการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ภาวะที่รัฐบาลเสียงข้างน้อยังต้องลุ้น ตัวโก่งจะถูกฝ่ายค้านยื่นซักฟอกหรือไม่
ฝั่งพรรคเพื่อไทยตั้งท่าเอาแน่จับนายกฯ และรมต.สีเทาขึ้นเขียงประจานพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจในการบริหารประเทศ ตรงข้ามกับพรรคฝ่ายค้านอันดับ1 พรรคประชาชนยังลังเลจะร่วมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่
อารมณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกค่ายส้มกล้าๆกลัวๆการยื่นซักฟอก ทำได้แค่ตีหน้ายักษ์ ออกลูกขู่ กดดันนายกฯให้ปลดรมต.สีเทาเข้มพ้นครม. แต่แทงกั๊กการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ห่วงหน้าพะวงหลัง เพราะเส้นทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังมาได้แค่ครึ่งๆกลางๆ หากไปร่วมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เสี่ยงถูกรัฐบาลชิงยุบสภา ไม่แคล้วการแก้กติกาประเทศเจอทางตัน ไม่เคยสำเร็จสักที
เดิมพันสำคัญที่พรรคประชาชนต้องชั่งใจให้ดี ถ้ารัฐธรรมนูญปี 2560 ยังไม่ถูกยกเครื่องใหญ่ ปล่อยให้องค์กรอิสระมีอำนาจล้นฟ้า ค่ายส้มก็คงอยู่ไม่สุข ต่อให้พรรคประชาชนติดลม โตมากเท่าไรก็มีสิทธิร่วงจากกับดักนิติสงคราม
ขืนเร่งเครื่องซักฟอกสุ่มสี่สุ่มห้า อาจได้จบเห่ทั้งรัฐบาลและรัฐธรรมนูญเสียของภารกิจใหญ่
สถานการณ์ที่พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทยต้องน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่าอย่างที่ “นายกฯหนู”ต้องร่วมยืนกรานพร้อมเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เหยียบคันเร่งการแก้รัฐธรรมนูญให้เสร็จทันกำหนดก่อนสิ้นปี2568
ส่งสัญญาณยื่นหมู ยื่นแมว ใช้เกมแก้รัฐธรรมนูญแลกถอยยื่นซักฟอก
วิน-วิน มีผลประโยชน์ร่วมทั้งสองพรรค ตามรูปการณ์เนื้อหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญในชั้นกรรมาธิการล่าสุดที่ให้มีกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ 35คน มาจากการสมัครของประชาชนผ่านกกต.ก่อนส่งรายชื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาลงมติคัดเลือกในขั้นสุดท้าย ตามสูตรโมเดลใหม่ “20หยิบ1” ให้สส.-สว.รวมกลุ่ม 20คน เลือกกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญได้ 1คน
แนวโน้มเป็นใจให้ทั้งพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยชิงความได้เปรียบเป็นฝ่ายคุมเกมกติกาแก้รัฐธรรมนูญหลัง
การเลือกตั้งรอบหน้า เพราะพรรคใดมีสส.หรือสว.อยู่ในมือมาก ก็สามารถรวมกลุ่มเสนอชื่อกมธ.ยกร่างฯได้มากตามไปด้วย
เต็งหนึ่งพรรคประชาชนมีโอกาสกวาดสส.มากที่สุดในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะที่พรรคภูมิใจไทยคือเต็งสอง รวมกับสว.สีน้ำเงินร่วม 150คน เป็นต้นทุนเดิม เบ็ดเสร็จมีโอกาสส่งคนเป็นกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญได้พรรคละ 10กว่าคน สามารถสร้างอำนาจต่อรองการยกร่างกติกาประเทศฉบับใหม่ได้
สถานการณ์ตรงกันข้ามกับพรรคเพื่อไทยที่เลือดทะลักไม่หยุด สส.หนีไปตายดาบหน้าจำนวนมากากวิกฤติความเชื่อมั่นของประชาชน
มีโอกาสเพลี่ยงพล้ำสูงในการเลือกตั้ง เหลือยอดสส.ไม่ถึงร้อยคน ส่อได้โควตากมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญไม่ถึง 5คน ออกอาการไม่สบอารมณ์โมเดล 20หยิบ1เฟ้นกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ตีโพยตีพายดังกว่าใคร เปิดช่องบล็อกโหวตให้กลุ่มทุนและสีใดสีหนึ่งล็อกสเปกแก้กติกาประเทศ
เกมอำนาจจ่อหลุดมือระยะยาว เลือกตั้งก็ส่อแพ้ หนำซ้ำอาจไม่ได้คุมเกมแก่รัฐธรรมนูญ กู่ไม่กลับไปกันใหญ่


