พรรคภูมิใจไทยของอนุทินสร้างแรงสั่นสะเทือน เปิดชื่อแคนดิเดตนายกฯ ดันกระแสนิยมพุ่งขึ้นทันที ขณะที่เพื่อไทยเผชิญจุดต่ำสุดในรอบสองทศวรรษ ท่ามกลางสัญญาณยุบสภาและการแข่งขันทางอำนาจที่เข้มข้นขึ้นทุกวัน
แบ็กอัปพร้อมเปย์สุดๆ
“นักเคลม ตัวพ่อ” นี่ถ้าไม่บอกว่าอาชีพดั้งเดิม คือ นักธุรกิจ “รับเหมาผูกขาดสัมปทานรัฐ”
อาจจะนึกว่าธุรกิจที่บ้าน เปิดบริษัทประกันภัยไปแล้ว
“นายกฯเสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย สร้างความฮือฮา (ที่ไม่เกินคาดหมาย) เปิดชื่อแคนดิเดตนายกฯ พรรคภูมิใจไทย ครบทั้ง 3 รายชื่อ

นอกจากตัวเองแล้ว แคนดิเดตนายกฯ อันดับสอง คือ “เสี่ยเอก” เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและรมว.คลัง กระบี่มือ 1 ด้านเศรษฐกิจ แห่งค่ายสีน้ำเงิน และแคนดิเดตนายกฯ อันดับที่สาม คือ “มาดามแต๋ม” ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์
จนผลสำรวจความคิดเห็นเบื้องต้น ของสำนักโพลนอกกรอบ กับรายชื่อแคนดิเดตฯของพรรคภูมิใจไทย พุ่งกระฉูดขึ้นมา โดยเฉพาะกับความนิยมส่วนตัวของ “มาดามแต๋ม” ทะลุปรอทอยู่คนเดียว กว่า 80% ตามด้วย “เสี่ยเอก” 8% กว่าๆ ขณะที่เจ้าของพรรคอย่าง “เสี่ยหนู” กระแสแป้กอยู่ที่ 3% กว่าๆ
กระแสที่พุ่งยังไม่ทันข้ามวัน สุดท้าย “เสี่ยหนู” ถูกนักข่าวจับโป๊ะจนยอมรับสารภาพว่า ยังไม่มีการทาบทามแคนดิเดตฯอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะ “มาดามแต๋ม” ศุภจี ยังคงติดภารกิจอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ขณะที่ ขุนคลังเอกนิติ ก็พยายามชิ่งหนี ไม่ยอมตอบคำถามผู้สื่อข่าว ที่พยายามซักถามประเด็นนี้
นี่แสดงให้ถึงเนื้อในความนิยมของรัฐบาล คนเชื่อมั่น นักบริหาร(คนนอก)มืออาชีพ มากกว่านักการเมืองมืออาชีพ
แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามปิดจุดอ่อน เสริมจุดแข็งของตัวเอง
เพราะจุดอ่อนที่สุดของ ภูมิใจไทย คือ ไร้ขุนพลเศรษฐกิจ ที่เป็นที่ยอมรับของสังคม ในการขับเคลื่อนชุดนโยบายให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
ขณะที่พรรคคู่แข่งอย่าง เพื่อไทย ก็เตรียมเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯในช่วงเดือน ธ.ค.
ในวันที่พรรคการเมืองที่เคยครองกระแสนิยมมายาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ถึงจุดตกต่ำสุด นับตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย – พลังประชาชน มาจนถึงเพื่อไทย
เลือดไหลออกมากกว่าเติมเข้า ในห้วงที่ “ผู้นำจิตวิญญาณสูงสุด” อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ถูกจับล็อกใส่กุญแจสิบชั้น ไม่ให้โผล่เห็นเดือน เห็นตะวัน ออกมาช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงเลือกตั้งใหญ่
ตระกูลชินวัตร ต้องจำยอมถอยสุดซอย อย่างที่ อดีตนายกฯ“อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร พูดไว้
วันนี้ทำได้แค่ต้องเกาะกลุ่มให้อยู่ใน TOP-3 เอาไว้ให้ได้
สำหรับพรรคประชาชน ที่ยอมลงทุนกับ “ดีลปีศาจ” เปลี่ยนสถานะจาก ฝ่ายค้าน เป็นฝ่ายค้ำรัฐบาล
ต้องเสียฐานแฟนคลับ และแต้มบริสุทธิ์ ไปจำนวนไม่น้อยแน่
วันนี้ยังคงนิ่งสงบ ไม่ยอมปล่อยของออกมา เอาไว้ว่ากันทีเดียวตอน นายกฯหนู ประกาศยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ตามสไตล์พรรคคนรุ่นใหม่ ไม่พูดมากลุยทีเดียวม้วนเดียวจบ รู้ดำรู้แดงกันไป
แต่ที่แน่ๆ รายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ไม่ใช่รายชื่ออย่างที่สื่อบางกลุ่ม มโนกันออกมา
ทีเด็ด ต้องรอโฟกัสไปที่ “วิทยากร” ร่วมงานอีเว้นท์ “รีชาร์จประเทศไทย” ที่มีกิจกรรมเสวนาน่าสนใจ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต แรงงาน การต่างประเทศ ปมปัญหาทุนเทา ฯลฯ
สแกนประวัติ คุ้ยโปรไฟล์กันให้ดี อาจมีคนตีตราจอง “ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ” รวมถึงบรรดาโควตา “ว่าที่รมต.” ในแผง “ครม.เงา” ปัจจัยปังๆ “ว้าวแฟกเตอร์” ค่ายส้มในสนามเลือกตั้ง
ภาพรวมเกมอำนาจ ถือว่าเอื้อเข้าทาง ภูมิใจไทย แบบสุดๆ
ทุนพร้อม คนพร้อม อำนาจพร้อม ที่สำคัญคือ แบ็กอัปที่“พร้อมเปย์”สุดๆ
หัวดูดระดับ เฮอริเคน หันไปทางไหน ฝ่ายตรงข้ามมีผวา
พร้อมจะดูด สส.เพื่อไทย และพรรคการเมืองตลอด 24 ชั่วโมง
หมุดหมายคือ ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ไปรวมเสียงกับพรรคกลางๆ อีก 2-3 พรรคจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก
ตัดสมการ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชน ที่เป็นของแสลงในเกมอำนาจทิ้งไป
สูตรต่อท่ออำนาจ 4+4 ก็สมดังฝันแล้ว


