ภูมิใจไทยเปิดตัวบ้านใหญ่หลายตระกูลเสริมทัพรับโอกาสยุบสภา ขณะที่พรรคประชาชนเปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ พร้อมยุทธศาสตร์เศรษฐกิจชุบชีวิตประเทศ ท่ามกลางความผันผวนของเกมอำนาจการเมืองไทย
เติมกำลังพลเข้าทัพหัวกระไดไม่แห้ง
“ภูมิใจไทย”โชว์ความพร้อมรับศึกเลือกตั้งที่อาจยุบสภาก่อนเดตไลน์ 4เดือน วันที่ 31ม.ค.2569
บิ๊กอีเวนต์ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคภูมิใจไทย วันที่ 23พ.ย. เปิดตัวบ้านใหญ่ 3ตระกูลดัง ตบเท้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่ค่ายสีน้ำเงิน
“บิ๊กแป๊ะ”สนธยา คุณปลื้ม บ้านใหญ่ชลบุรี “เดอะท็อป”วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา บ้านใหญ่สุพรรณบุรี และปิยะ ปิตุเตชะ นายกอบจ.ระยอง เติมแต้มสนามภาคตะวันออก
ภูมิใจไทยไล่ดูดบิ๊กลอตบ้านใหญ่ และสส.ต่างพรรคเสริมเขี้ยวเล็บต่อเนื่อง เตรียมรับสัญญาณยุบสภาที่เกิดขึ้นได้ทุกขณะ หลังเปิดสมัยประชุมสภารอบใหม่ที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 12ธ.ค.นี้
อย่างที่ “นายกฯหนู”อนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ส่งซิบพร้อมยุบสภาทันที หลังเปิดสมัยประชุมสภาอีกครั้ง หากฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา151
ไม่ต่างจากค่ายส้ม พรรคประชาชน ล่าสุดเปิดตัว 3แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งนำทีมโดย “หัวหน้าเท้ง”ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตอันดับ1 ตามด้วย “ศิริกัญญา ตันสกุล”แม่ทัพฝ่ายเศรษฐกิจ และวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรค
ชูสโลแกน “ไม่เทา เท่าเทียม และทันโลก” กางยุทธศาสตร์“ชุบชีวิตเศรษฐกิจไทย”
วางเมกกะโปรเจกต์ลงทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนครั้งใหญ่ 6.3แสนล้านบาท อาทิ การบริหารจัดการน้ำเสีย น้ำประปาดื่มได้ ขนส่งสาธารณะ การจัดการขยะ โรงเรียน โรงพยาบาลและโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ
ตั้งเป้าขอเวลา8ปี เปลี่ยนประเทศไทยเป็นประเทศพัฒนา
2พรรคใหญ่“ภูมิใจไทย-ประชาชน”คึกคัก แห่เปิดหน้าแคนดิเดตนายกฯ โชว์นโยบายมัดใจประชาชน แต่ไก่โห่
รูปการณ์ที่การเมืองไทยปัจจุบัน เส้นทางพรรคขนาดกลาง พรรคจิ๋วไปต่อลำบาก ต้องสละเรือ ซมซานซบพรรคใหญ่ ทั้งกระแส กระสุน เบียดสู้ไม่ได้
ระดับ “วราวุธ ศิลปอาชา” ยังหมดลายยอมทิ้งมรดกเตี่ย นำทีมสส.มารวมร่างพรรคภูมิใจไทย ทิ้งพี่สาวเฝ้าพรรคเป็นแค่เชิงสัญลักษณ์เท่านั้น
แม้กระทั่งพรรคใหญ่อย่าง “เพื่อไทย”ก็ยังทรุดหนัก กระแสความนิยมร่วงระเนระนาด ยิ่ง “นายใหญ่”ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดนวิบากกรรมไล่ล่าเพิ่ม ติดบ่วงนิติสงครามอีก 2คดี กรณีอัยการสูงสุดอุทธรณ์ความผิดคดีมาตรา112และคดีศาลฎีกาพิพากษาให้กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.76หมื่นล้านบาท
เสี่ยงโดนคุกเพิ่มและยึดทรัพย์อีกเป็นหมื่นล้าน โอกาสิบหรี่ได้รับพักโทษ กลับมาบัญชาการทัพเพื่อไทยช่วงเลือกตั้งรอบหน้า
กระทบขวัญกำลังใจลูกพรรค ตัดสินใจง่ายขึ้น หนีไปตายดาบหน้า หาสังกัดใหม่เพื่อความอยู่รอดทางการเมืองในอนาคต
เพื่อไทยกระเพื่อมไม่หยุด ไม่รู้เลือดจะทะลักออกตามมามาอีกเยอะแค่ไหน 3แคนดิเดตนายกฯก็ยังรีรอ ไม่กล้าเปิดตัว ต้นทุนหน้าตักร่อยหรอลงเรื่อยๆ
แนวโน้มมีโอกาสเพลี่ยงพล้ำสูง กลายเป็นพรรคต่ำกว่าร้อยในการเลือกตั้งรอบหน้า ไม่ได้สส.ตามเป้า เกมอำนาจส่อหลุดมือยาว
ประเมินแต้มต่อทุกพรรค ค่ายภูมิใจไทยคุมเกมการเมืองได้เปรียบสูงสุด ไม่ว่าจะยุบสภาเร็วหรือช้า จะขยับเป็นวันที่ 12ธ.ค.นี้ หรือยึดตามไทม์ไลน์เดิม 4เดือน ตาม 31ม.ค.2569
สีน้ำเงินติดลม กินเรียบบ้านใหญ่ ซุ้มการเมือง ซ้ำยังคุมกลไกอำนาจรัฐ แต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดขณะที่โครงการคนละครึ่งพลัสก็เตรียมเปิดเฟส2 ช่วงปลายปี คาบเกี่ยวห้วงเวลาเลือกตั้งใหม่
ตั้งเป้าขยับยอดสส.จาก 120ที่นั่ง เป็น 150ที่นั่ง แต่จะได้เป็นพรรคอันดับ1 ในการเลือกตั้งหรือไม่ ต้องลุ้นกับพรรคประชาชนที่ขี่กระแสพายุสีส้ม มีคะแนนนำจากการสำรวจความเห็นประชาชนของโพลต่างๆ
ภาวะที่พรรคภูมิใจไทยต้องการยืนเป็นที่1 หวังกุมอำนาจสูงสุดจัดตั้งรัฐบาล ต้องเร่งดูดสส.ทุกค่าย ทุกก๊วนมาอยู่ในสังกัดให้มากที่สุด ออกลูกข่มได้ทุกพรรค เพราะถือไพ่ยุบสภาอยู่ในมือ
แนวโน้มอาจได้เห็นเกมฉีกเอ็มโอยู ชิงยุบสภา ตั้งแต่วันที่ 12ธ.ค. ที่เป็นวันเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรรอบใหม่ หักดีลล่มการแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ค้างเติ่งอยู่ในสภาแค่วาระ2
“น้ำเงิน-ส้ม”เบียดสู้กันสนุก แข่งชิงไหวชิงพริบ ไม่ต้องมีออกลูกเกรงใจ
