นายอำเภอหาดใหญ่เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กชี้แจงกรณีถูกให้ออกจากราชการ ยืนยันอยู่พื้นที่น้ำท่วมลึกกว่า 3 เมตรตลอด ไม่มีไฟและไม่มีสัญญาณ แต่ยังคงช่วยประชาชนกลางดึกต่อเนื่อง
สถานการณ์การบังคับให้ออกจากราชการของ นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ กลับมาถูกจับตาอีกครั้ง หลังเจ้าตัวโพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กช่วงค่ำวันที่ 27 พฤศจิกายน ต่อเนื่องถึงเช้ามืดวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 โดยยืนยันว่าอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อุทกภัยตลอด แม้ระดับน้ำจะสูงกว่า 3 เมตร ทำให้ไร้ไฟฟ้าและไร้สัญญาณสื่อสารจนไม่สามารถติดต่อกับหน่วยงานต้นสังกัดได้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความกังขาของสังคม หลังกรมการปกครองออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเพราะไม่สามารถติดต่อได้ในช่วงวิกฤต.
นายอำเภอชี้แจงอยู่พื้นที่ทุกวัน แต่ถูกมองว่า “ไม่ปฏิบัติหน้าที่”
หลังคำสั่งของกรมการปกครองเผยแพร่ออกมา กระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับบทบาทของนายอำเภอหาดใหญ่ในช่วงน้ำท่วมรุนแรงได้ทวีความเข้มขึ้น โดยในเวลา 23.47 น. ของคืนวันที่ 27 พฤศจิกายน เฟซบุ๊กที่คาดว่าเป็นของนายอำเภอระบุว่า “ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว อยู่ในพื้นที่ทุกวัน ปัญหาคือน้ำท่วมหนักกว่า 3 เมตร ไม่มีไฟ ไม่มีสัญญาณ ไม่มีเน็ต โทรไม่ได้ ออกไม่ได้ แต่ไม่เคยทิ้งประชาชน” ข้อความดังกล่าวสะท้อนว่าปัญหาการสื่อสารเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการประสานงานในสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งนี้
ข้อความชี้แจงดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพื้นที่หลายจุดในอำเภอหาดใหญ่ประสบปัญหาน้ำท่วมสูงจริงจนกระทบต่อระบบสื่อสารทั้งโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ทำให้ประชาชนบางส่วนมองว่าข้อมูลจากผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่อาจสะท้อนมุมที่แตกต่างจากเอกสารคำสั่งของทางราชการ ซึ่งระบุว่านายอำเภอไม่อยู่พื้นที่และไม่สามารถติดต่อได้ในช่วงสำคัญของการจัดการวิกฤตน้ำท่วม.
เปิดครัวช่วยชาวบ้านกลางดึก ยืนยัน “ไม่ทิ้งประชาชน”
เวลาประมาณ 23.59 น. นายอำเภอได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่ากำลังร่วมกับคณะสงฆ์วัดหาดใหญ่ในและวัดสันติวรคุณ เปิดครัวหน้าบ้านพักนายอำเภอหาดใหญ่ ทำอาหารแจกชาวบ้านในพื้นที่น้ำท่วม โดยต้องใช้แก๊สหุงต้มและจัดเตรียมอาหารในความมืด เนื่องจากไฟฟ้ายังไม่สามารถใช้การได้ การลงพื้นที่ช่วยเหลือดังกล่าวสะท้อนความพยายามในการประคับประคองชุมชนในช่วงวิกฤต แม้พื้นที่โดยรอบจะถูกตัดขาดจากระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน.
บริเวณบ้านพักนายอำเภอมีสภาพน้ำท่วมสูงจนไม่สามารถเดินทางออกสู่ถนนสายหลักได้ การปรุงอาหารและแจกจ่ายจึงต้องอาศัยการประสานงานแบบประชิดพื้นที่ โดยมีพระสงฆ์และอาสาสมัครร่วมสนับสนุนภารกิจ ทั้งนี้ การสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียของนายอำเภอได้รับการแชร์อย่างต่อเนื่องจากประชาชนในพื้นที่ ที่ต้องการแสดงให้เห็นว่ามีการทำงานช่วยเหลือประชาชนจริงในภาวะฉุกเฉิน.
โพสต์กลางดึกย้ำเสี่ยงตายเพื่อช่วยประชาชนท่ามกลางน้ำลึก
เวลา 02.25 น. นายอำเภอได้โพสต์ข้อความอีกครั้ง เพื่อสะท้อนสภาพการทำงานในพื้นที่น้ำท่วม โดยระบุว่า “ไม่มีใจ ทำไม่ได้ เรามีกันอยู่แค่นี้ เสี่ยงเป็น เสี่ยงตาย เพื่อให้ประชาชนได้ประทังชีวิต หุงข้าว ต้มไข่ ใส่ถุง ปีนบนสาย เพื่อหาทางไปส่ง พลาดคือตาย” ข้อความดังกล่าวแสดงถึงความยากลำบากของทีมงานที่ต้องหาทางลำเลียงอาหารฝ่าน้ำลึกและกระแสน้ำแรงในช่วงกลางดึกที่มีความเสี่ยงสูงมาก.
สภาพแวดล้อมในคืนดังกล่าวมืดสนิทเพราะขาดไฟฟ้า และเส้นทางหลายจุดถูกน้ำท่วมสูงจนเจ้าหน้าที่ต้องเลือกใช้วิธีปีนเชือกหรือโครงสร้างสูงตามอาคารเพื่อไปยังบ้านเรือนที่มีผู้ติดค้างอยู่ชั้นสอง การทำงานท่ามกลางความเสี่ยงทำให้โพสต์ของนายอำเภอมีผู้ร่วมให้กำลังใจจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ยิ่งทำให้ข้อถกเถียงเกี่ยวกับคำสั่งให้ออกจากราชการเข้มข้นขึ้น เพราะสะท้อนความแตกต่างระหว่างข้อมูลของหน่วยงานส่วนกลางและเสียงจากพื้นที่จริง.
