บิ๊กโจ๊ก เดินทางเข้ากองปราบฯ ประกาศชัดไม่หลบหนี พร้อมสู้คดีหมิ่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุเป็นการแจ้งความเพื่อปิดปาก และเตรียมเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับส่วยพนันในสัปดาห์หน้า
เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 2 ธันวาคม 2568 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อแสดงตัวว่าไม่ได้หลบหนี หลังมีการร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีหมิ่นประมาทสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเจ้าตัวยืนยันพร้อมต่อสู้ทุกคดี และระบุว่าการแจ้งความครั้งนี้เป็นความพยายามปิดปาก พร้อมประกาศเตรียมเปิดเผยข้อมูลสำคัญภายในสัปดาห์หน้า
บิ๊กโจ๊กเข้าพบกองปราบฯ ย้ำไม่หลบหนี พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
บรรยากาศที่หน้าศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นจุดที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ปรากฏตัวต่อสื่อมวลชนและยืนยันว่า “ยังอยู่ในพื้นที่ ไม่ได้หลบหนี” โดยมาพบพนักงานสอบสวนด้วยความสมัครใจ แม้จะยังไม่มีหมายเรียกหรือการแจ้งข้อหาใดๆ ในชั้นสำนวนคดีหมิ่นประมาทที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ร้องทุกข์
เขาระบุว่า รับทราบข้อมูลว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ผู้แทนเข้าแจ้งความเอาผิด แต่การเข้าพบในครั้งนี้เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และยืนยันพร้อมเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมเต็มรูปแบบ หากมีหมายเรียกก็จะมาทันที เพราะคดีลักษณะนี้ไม่มีสิทธิออกหมายจับเนื่องจากอัตราโทษไม่เกิน 3 ปี
ชี้แจ้งความเป็นความพยายาม “ปิดปาก” หลังเปิดข้อมูลส่วยพนันตำรวจ
บิ๊กโจ๊ก ให้เหตุผลว่า สิ่งที่ตนพูดเป็นการแสดงความเห็นโดยอ้างอิงข้อมูลจริงเกี่ยวกับเครือข่ายส่วยเว็บพนันที่มีตำรวจเกี่ยวข้องหลายระดับ ทั้งนายตำรวจ 30 กว่าราย และกลุ่มที่ถูกเปิดชื่อกว่า 200 ราย พร้อมย้ำว่าข้อความ “ตำรวจคือองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุด” เป็นการสะท้อนปัญหาเชิงระบบ ไม่ได้พาดพิงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นการเฉพาะ
เขาระบุว่า คดีนี้มีลักษณะคล้าย “การแจ้งความเพื่อปิดปาก” เนื่องจากกำลังเปิดข้อมูลอ่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจ พร้อมท้วงติงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้าน เพราะข้อกล่าวหาอาจย้อนกลับไปหาผู้กล่าวหาเองได้
เตรียมปล่อยข้อมูลใหญ่ ระบุเก็บข้อมูลเงียบ 1 ปีเต็ม
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่เก็บข้อมูลอย่างละเอียด เปรียบเหมือน “นักมวยซ้อมทุกวัน” และถึงเวลาชกจริงแล้ว โดยยืนยันว่าทราบชัดว่าพนักงานสอบสวนรายใดทำถูกหรือทำผิด
เขาระบุว่าจะทยอยเปิดข้อมูลทั้งหมดในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการภายใน รวมถึงพิกัดบุคคลที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ พร้อมย้ำว่าที่ผ่านมา “ถูกเล่นงานเพราะเป็นตัวจี๊ดและรู้ข้อมูลมากที่สุด”
ตอบโต้กระแสวิจารณ์เรื่องหลบหนี และพาดพิงปัญหา ‘ตั๋วช้าง’
ต่อคำถามเรื่องการปรากฏตัวในพื้นที่กองปราบฯ อาจถูกมองว่าเป็นการท้าทายผู้กล่าวหา เขาตอบว่า บุคคลที่กล่าวหาว่าตนจะหลบหนี “เพียงทำหน้าที่ตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณ เพราะได้รับตั๋วช้างแล้ว” พร้อมย้ำว่าตนจะสู้บนหลักกฎหมาย ส่วนความขัดแย้งส่วนบุคคลขอให้เป็นเรื่องหลังบ้าน
นอกจากนี้ ยังกล่าวว่า ปัญหาเว็บพนันและสแกมเมอร์ในปัจจุบันเป็นเสมือน “ลิเกโรงหนึ่ง” เพราะไม่มีมาตรการจัดการที่เป็นรูปธรรม ขณะที่เรื่องส่วยตำรวจยังมีผู้ร้องเรียนทั่วประเทศ แต่ยังไม่ถูกแก้ไขอย่างแท้จริง
เดินหน้าดำเนินกระบวนการทางกฎหมายต่อ ก่อนลงพื้นที่ภาคใต้
หลังแสดงตัวที่กองปราบฯ บิ๊กโจ๊ก ระบุว่าจะเดินทางไปยังศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นดำเนินการในคดีอื่นต่อ ก่อนลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงค่ำ พร้อมย้ำทิ้งท้ายว่า “ไม่ได้หนี และพร้อมเข้ากระบวนการทุกขั้นตอน”
จากนั้นเวลา 11.45 น. เขาได้เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีเพียงข้อหาหมิ่นประมาทหนึ่งรายการ และได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวทันที


