รัฐบาลเคาะแจกเงินหมื่นเฟส 3 กลุ่มวัยรุ่นอายุ 16-20 ปี
โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเดินหน้าอีกครั้ง ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมี แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติให้ดำเนินโครงการแจกเงินหมื่นบาท เฟส 3 โดยครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่กลุ่มวัยรุ่นอายุ 16-20 ปี ครอบคลุม 2.7 ล้านคน เป็นครั้งแรกที่มีการจ่ายผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต แทนการโอนเงินสดแบบสองเฟสที่ผ่านมา
โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัล โดยจะเริ่มจ่ายเงินช่วงปลายไตรมาสที่ 2 ของปี รายละเอียดและข้อกำหนดในการใช้เงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ตจะมีการปรับเปลี่ยน เพื่อให้การใช้จ่ายคล่องตัวมากขึ้น
ที่ประชุมถก 3 วาระหลัก กระตุ้นเศรษฐกิจ-แจกเงินหมื่น-ลงทะเบียนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน
การประชุมครั้งนี้มี เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าร่วมเป็นครั้งแรก โดยที่ประชุมพิจารณา 3 วาระหลัก ได้แก่
- การกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตมากกว่า 3%
- การแจกเงินหมื่นบาท เฟส 3 สำหรับกลุ่มวัยรุ่น
- การลงทะเบียนสำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน
ในส่วนของโครงการแจกเงินหมื่นบาท เฟส 3 นั้น พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องการให้โครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการจ่ายเงินในรูปแบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ จึงขอเรียกโครงการนี้ว่า “เฟสที่หนึ่ง” ของการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต
วัยรุ่น 16-20 ปี กลุ่มเป้าหมาย “ตื่นรู้ทางเทคโนโลยี”
หนึ่งในเหตุผลหลักที่รัฐบาลเลือกแจกเงินให้กับกลุ่มวัยรุ่นอายุ 16-20 ปี คือการมองว่ากลุ่มนี้มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและมีแนวโน้มใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัลมากกว่ากลุ่มอื่นๆ เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าการเลือกกลุ่มเป้าหมายนี้ไม่ใช่ข้อจำกัดของงบประมาณ แต่เป็นการลงทุนในกลุ่มที่สามารถปรับตัวและใช้เงินในรูปแบบดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เฟส 4 มีหรือไม่? รัฐบาลขอประเมินความเหมาะสม
สำหรับประชาชนในช่วงอายุอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่ม 20-60 ปี ที่รอคอยโครงการแจกเงิน พิชัย ชุณหวชิร ระบุว่ารัฐบาลจะพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง ว่าจะมีเฟส 4 หรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับผลกระทบทางเศรษฐกิจและประสิทธิภาพของการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการนี้
ปรับกฎการใช้จ่าย ตัดสินค้าต้องห้าม เปิดใช้จ่ายค่าเทอม-ค่าน้ำค่าไฟ
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ตในรอบนี้ว่า มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยมีการ ตัดรายการสินค้าต้องห้าม (Negative List) ออกไปหลายรายการ พร้อมกับ เปิดให้สามารถใช้จ่ายค่าเทอม และค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ได้
กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียนผ่านธนาคารรัฐและ อปท.
ในการประชุมครั้งนี้ยังได้ข้อสรุปเกี่ยวกับ แนวทางการลงทะเบียนสำหรับผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งสามารถลงทะเบียนได้ที่ 4 ธนาคารรัฐ ได้แก่
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
รวมถึง ที่ทำการไปรษณีย์ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
เผ่าภูมิ โรจนสกุล ระบุว่า การลงทะเบียนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนจะมีการตรวจสอบย้อนหลัง 3 เดือนว่ามีการใช้สมาร์ทโฟนหรือไม่ โดยใช้ข้อมูลการใช้ อินเทอร์เน็ตมือถือเกิน 500MB เป็นเกณฑ์ ซึ่งจะประสานกับเครือข่ายมือถือเพื่อช่วยตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว

ข้อมูล/ภาพ : 3PlusNEWS