รัฐบาลเดินหน้าแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็นหลายเฟส เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับประโยชน์สูงสุด เริ่มแจกเงินให้กลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุก่อน และเตรียมการสำหรับเฟสถัดไป ซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมประชาชนทั่วไปที่มีสิทธิ์ตามเงื่อนไขของรัฐบาล
เฟสที่ 1: กลุ่มเปราะบางและคนพิการได้รับสิทธิ์ก่อน
รัฐบาลเริ่มแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้กับ กลุ่มเปราะบางและคนพิการ เป็นกลุ่มแรก ครอบคลุมประชาชนประมาณ 14.5 ล้านคน ใช้งบประมาณ 145,000 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่ วันที่ 25 กันยายน 2567
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ:
- คาดการณ์ว่าช่วยให้ GDP ขยายตัวร้อยละ 0.3
- กระตุ้นเศรษฐกิจระดับชุมชน
- ช่วยเหลือกลุ่มประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด
เฟสที่ 2: ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ได้รับสิทธิ์เพิ่มเติม
หลังจากเฟสแรก รัฐบาลได้ขยายโครงการไปยัง ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ครอบคลุมประชาชนประมาณ 3 ล้านคน ใช้งบประมาณ 30,000 ล้านบาท เริ่มแจกเงินตั้งแต่ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ:
- คาดการณ์ว่าจะช่วยให้ GDP ขยายตัวร้อยละ 0.1
- เสริมสภาพคล่องให้ประชาชนกลุ่มสูงอายุ
- กระตุ้นกำลังซื้อในตลาดระดับท้องถิ่น
เฟสที่ 3: กลุ่มเยาวชนอายุ 16-20 ปี เตรียมรับสิทธิ์
รัฐบาลมีแผนแจกเงินให้กับ ประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 16-20 ปี ครอบคลุมประชาชนประมาณ 2.7 ล้านคน ใช้งบประมาณ 27,000 ล้านบาท โดยคาดว่าเริ่มแจกเงินในช่วง พฤษภาคม-มิถุนายน 2568
คุณสมบัติของผู้ได้รับสิทธิ์ในเฟสที่ 3:
- สัญชาติไทย
- อายุ 16-20 ปีบริบูรณ์ (ก่อนวันที่ 16 กันยายน 2567)
- รายได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปี (สำหรับปีภาษี 2566)
- เงินฝากรวมไม่เกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567
- ไม่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
- ไม่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนจากโครงการอื่น ๆ ของรัฐ
- ไม่ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการหรือโครงการอื่น ๆ ของรัฐ
เฟสที่ 4: กลุ่มประชาชนทั่วไป 21-59 ปี รอการพิจารณา
สำหรับ ประชาชนอายุ 21-59 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุด ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา รัฐบาลยืนยันว่ากลุ่มนี้ยังมีโอกาสได้รับสิทธิ์ โดยรายละเอียดจะประกาศเพิ่มเติมในอนาคต
ช่องทางการใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต
เงินดิจิทัล 10,000 บาท สามารถใช้จ่ายได้ภายใน อำเภอที่ผู้ได้รับสิทธิ์อาศัยอยู่ โดยใช้ในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เช่น:
- ร้านโชห่วย
- ร้านอาหาร
- ร้านค้าสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป
ข้อจำกัด: ร้านค้าที่ขายสินค้าเฉพาะ เช่น ร้านทอง หรือร้านที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะ อาจไม่ได้เข้าร่วมโครงการ
