คนไทยยุคนี้ดู Netflix ฟังเพลงผ่าน YouTube และเลื่อน TikTok กันทุกวัน แต่รู้หรือไม่ว่า ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป รายได้ที่ควรจะหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยกลับไหลออกนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากบริการ OTT (Over-the-Top) ซึ่งไม่มีการกำกับดูแลอย่างจริงจังจากหน่วยงานที่ควรรับผิดชอบอย่าง “กสทช.” ส่งผลให้รัฐไทยเสียประโยชน์มหาศาล และผู้ประกอบการไทยต้องแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม
ตลาด OTT ไทยโตแรง แต่รายได้ไม่เข้าประเทศ
ตลาด OTT TV ในประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด ปี 2563 มีมูลค่ามากกว่า 3,500 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 6,300 ล้านบาท ในปี 2567 ตามข้อมูลจาก Dataxet Media Landscape 2021
แม้เม็ดเงินเหล่านี้เกิดจากผู้บริโภคชาวไทย แต่กลับไม่มีระบบจัดเก็บภาษีหรือส่วนแบ่งรายได้เข้าสู่รัฐไทยอย่างเป็นธรรม ขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างชาติยังสามารถเข้ามาทำตลาดได้โดยไม่มีข้อผูกพันใด ๆ กับระบบไทยเลย
ในทางตรงกันข้าม กรมสรรพากร สามารถเริ่มเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากบริการ e-Service ต่างประเทศได้ในเดือนกันยายน 2564 และแค่เดือนแรกก็จัดเก็บรายได้ถึง 686 ล้านบาท จากบริษัทเพียง 106 ราย รวมมูลค่าการให้บริการกว่า 9,800 ล้านบาท
ลองคิดดู หากมีการควบคุมแพลตฟอร์ม OTT อย่างเป็นระบบ รายได้ที่เข้าสู่รัฐอาจพุ่งไปถึงหลัก “หลายพันล้านบาทต่อปี”
ต่างชาติขยับ ไทยยังนิ่ง กสทช.ควรเป็นผู้นำ
หลายประเทศเริ่มขยับอย่างจริงจังเพื่อควบคุมแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น
- สหภาพยุโรป ออกกฎหมาย Digital Services Act บังคับให้แพลตฟอร์มโปร่งใสและรับผิดชอบต่อเนื้อหา
- เกาหลีใต้ ออกมาตรการควบคุมราคาและการแข่งขันของ OTT ไม่ให้ผูกขาดตลาด
- อินเดีย บังคับให้แพลตฟอร์ม OTT ต้องมีระบบจัดเรตเนื้อหาและช่องทางร้องเรียนให้ประชาชน
ขณะที่ประเทศไทยยังไม่มีมาตรการชัดเจนจาก กสทช.
แม้จะเคยเสนอแนวคิดเรื่อง “แพลตฟอร์ม OTT แห่งชาติ” แต่ก็ยังเป็นเพียงแนวคิดในเอกสาร ยังไม่มีการดำเนินการจริง หรือแนวทางที่ตอบโจทย์สถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งในแง่ของการจัดเก็บภาษี การควบคุมเนื้อหา หรือการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้แข่งขันได้อย่างยั่งยืน
เงินไม่เข้า ระบบไม่เป็นธรรม คนไทยเสียเปรียบ
ดร. พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ชี้ชัดว่า:
“เม็ดเงินโฆษณากำลังไหลออกจากระบบสื่อไทยสู่แพลตฟอร์มต่างประเทศ โดยที่ กสทช. ไม่สามารถกำกับอะไรได้เลย”
คำกล่าวนี้สะท้อนถึงปัญหาสำคัญที่กำลังเกิดขึ้นต่อหน้าเรา
ในขณะที่ ผู้ประกอบการไทย ต้องแบกรับต้นทุนทั้งการเสียภาษี การขอใบอนุญาต และการปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ แพลตฟอร์มต่างชาติก็ยังสามารถให้บริการแบบเต็มรูปแบบ โดยแทบไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทยเลยแม้แต่น้อย
ระบบที่ปล่อยให้คู่แข่งต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจโดยไม่มีข้อจำกัด แต่คนไทยต้องปฏิบัติตามข้อบังคับอย่างเข้มงวดแบบนี้ คือความไม่เท่าเทียม และคือโอกาสที่รัฐกำลังปล่อยให้หลุดมือไปอย่างเงียบ ๆ
ถึงเวลา กสทช.ต้องเปลี่ยนจากผู้ดู เป็นผู้ทำ
เราไม่ได้เรียกร้องให้ปิดกั้น หรือห้ามใช้แพลตฟอร์ม OTT แต่สิ่งที่ต้องการคือ ความเป็นธรรมในการแข่งขัน และ การสร้างรายได้กลับคืนสู่ประเทศ
กสทช. ควรเป็นผู้นำในการออกแบบมาตรการที่ทำให้แพลตฟอร์ม OTT ต่างชาติเหล่านี้มีส่วนร่วมกับระบบเศรษฐกิจไทยอย่างเท่าเทียม
เพราะถ้าแค่เก็บ VAT จาก 106 บริษัท ยังทำรายได้ 686 ล้านบาทได้ภายในเดือนเดียว ลองคิดดูว่าหากเราจัดระบบ OTT ทั้งหมดอย่างจริงจัง รายได้ต่อปีจะมีมูลค่าเท่าไร?
นี่คือภาษีของประชาชน ที่ไม่ควรถูกปล่อยให้หายไปกับสายลม


ข้อมูล : dataxet