AIS PLAY ได้สิทธิ์พรีเมียร์ลีก 2025 แล้ว True ยังคุ้มไหม?

เมื่อฤดูกาลหน้า (2025/26) ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษกำลังจะเปิดฉากขึ้น ความเคลื่อนไหวในสนามยังไม่ทันเริ่ม แต่ศึกนอกรอบระหว่างสองค่ายสตรีมมิงยักษ์ใหญ่ของไทยอย่าง AIS PLAY และ TrueVisions NOW กลับเดือดเสียก่อน

คำถามที่คนดูบอลอย่างเราๆ ต้องถามตัวเองคือ
“ถ้าเรามีเงินเดือนละ 300–800 บาท จะจ่ายให้ใคร เพื่อดูบอลที่เรารักอย่างคุ้มค่าที่สุด?”

เปิดเกมบุก AIS ถือสิทธิ์พรีเมียร์ฯ คนเดียว

AIS PLAY กลายเป็นเจ้าของสิทธิ์การถ่ายทอดสด พรีเมียร์ลีกอังกฤษ และ FA Cup อย่างเป็นทางการในประเทศไทย สำหรับฤดูกาล 2025/26 เป็นต้นไป ผ่านความร่วมมือกับ JAS และ MONOMAX ซึ่งหมายความว่า TrueVisions จะไม่สามารถถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกได้อีกต่อไป

ราคาที่หลายคนรอคอยก็ถูกเปิดเผยแล้วว่า แพ็กเกจเริ่มต้นจะอยู่ที่ 329 บาทต่อเดือน ถูกกว่าราคาที่เคยเป็น และน่าจับตาว่าจะมีแพ็กเกจเสริมแบบ “เฉพาะทีม” หรือ “รายวัน” ให้เลือกด้วย

ช่องทางรับชมก็หลากหลาย รองรับทุกอุปกรณ์ ตั้งแต่มือถือ กล่อง AIS PLAYBOX, เว็บไซต์, MONOMAX, Smart TV, Samsung TV ไปจนถึง Apple TV

แต่สิ่งที่ยังไม่มีคำตอบ
– ความละเอียดระดับ 4K จะตามมาไหม หรือ Full HD HDR 50fps คือจุดสูงสุดของซีซั่นนี้?
– คนที่อยากดูคอนเทนต์อย่าง Netflix หรือ Disney+ จะต้องซื้อแยกใช่ไหม?

True NOW ขยับหมากใหม่ หลังหมดสิทธิ์พรีเมียร์ลีก

ฝั่ง TrueVisions NOW หลังจากพ้นยุคถือสิทธิ์พรีเมียร์ลีกไป ก็หันมาเน้น “ความครบจบ” ในคอนเทนต์อื่นแทน โดยยังคงมีแพ็กเกจสตรีมมิงที่รวมกีฬาอื่นๆ อย่างบุนเดสลีกา, NBA, เทนนิส, มอเตอร์สปอร์ต และแอปดังอย่าง HBO GO, beIN SPORTS, Discovery+ ฯลฯ

แพ็กเกจยังเริ่มต้นที่ 599 บาท/เดือน สำหรับลูกค้าทรู-ดีแทค และ 799 บาท สำหรับบุคคลทั่วไป ซึ่งมองในแง่ความหลากหลายของเนื้อหาถือว่าครบ แต่ในแง่ “คนดูบอลอังกฤษ” แล้ว ต้องบอกตรงๆ ว่า ฤดูกาลนี้ True ไม่มีบอลอังกฤษให้ดูแล้ว

แล้วคำถามคือ
– คนดูบอลควรจ่าย 799 เพื่อดูคอนเทนต์อื่น หรือจ่าย 329 เพื่อดูพรีเมียร์ฯ อย่างเดียวแบบเน้นๆ?
– หรือควรสมัครทั้งคู่ แล้วดูให้มันครบๆ ไปเลย?

ผู้ชนะคือใคร? หรือจริงๆ เราคือผู้ตัดสิน

แม้การแข่งขันระหว่างสองแบรนด์จะดุเดือด แต่คนที่มีสิทธิ์ยิงประตูชัยกลับไม่ใช่ AIS หรือ True — แต่คือเรา…ผู้บริโภค

วันนี้โลกของคอนเทนต์ไม่ได้วัดกันที่ใครมีเยอะกว่า แต่คือใคร ตรงใจมากกว่า
“คุ้มค่า” จึงไม่ใช่แค่ราคาต่อเดือน แต่คือ ความพอใจต่อประสบการณ์ที่เราได้รับ

บทสรุป (แบบยังไม่สรุป)

ฤดูกาล 2025/26 กำลังจะเปิดฉาก พร้อมกับศึกนอกสนามที่เข้มข้นไม่แพ้ในสนาม
AIS ถือสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ฯ แบบเบ็ดเสร็จ พร้อมเปิดราคาเข้าถึงง่าย
True ยังไม่ออกจากเกม แต่ต้องปรับกลยุทธ์ไปเน้นคอนเทนต์อื่นที่หลากหลายแทน

และสุดท้าย คำตอบไม่ได้อยู่ที่ว่าใคร “ครบกว่า”
แต่อยู่ที่ว่า… คุณอยากดูอะไรจริงๆ กันแน่?

เพราะคำถามสำคัญไม่ใช่ “ใครจะขายแพ็กเกจได้มากกว่า”
แต่คือ “ใครจะเข้าใจใจแฟนบอลได้ลึกกว่ากัน”

พรีเมียร์ลีก, AIS PLAY, TrueVisions NOW, ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด, สตรีมมิงกีฬา

ภาพ : droidsans

เบื้องหลังโรงแรมดัง! เมีย รมว.พลังงาน กุมอำนาจหุ้นใหญ่ DUSIT ใครกำหนดเกมตัวจริง?

เมื่อศรัทธาถูกแลกด้วยบัญชีพนัน ลุงเอี่ยม หนัง “สาธุ” และบทพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีในใบเสร็จ