ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดการซื้อขายช่วงเช้าวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ด้วยดัชนี SET ปรับลดลง 5.31 จุด มาอยู่ที่ระดับ 1,326.12 จุด ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับ สถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะเหตุปะทะทางทหารในเขตใกล้ด่านช่องสายตาเมือนธม ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นในภูมิภาคและแรงขายในกลุ่มหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์การเมือง
ปะทะชายแดน กระทบลงทุน
การซื้อขายในช่วงเช้าได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนด้านความมั่นคง หลังเกิดเหตุทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากกับระเบิดบริเวณชายแดน ทำให้ กองทัพภาคที่ 2 มีคำสั่งปิดด่านและพื้นที่รอบปราสาทตาเมือนธม เพื่อควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกันยังมีรายงานว่าเกิดการโจมตีด้วยอาวุธหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ ซึ่งสร้างความหวาดระแวงต่อการขยายตัวของความรุนแรง
นักวิเคราะห์จากหลายสำนักประเมินว่า ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นอาจกระทบต่อแผนการค้าชายแดน และสร้างแรงขายในหุ้นกลุ่มโลจิสติกส์และพาณิชย์ โดยเฉพาะบริษัทที่มีฐานธุรกิจในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
แรงเทขายกลุ่มพลังงาน-โลจิสติกส์
ดัชนี SET เช้านี้ได้รับแรงฉุดจากกลุ่มพลังงานและโลจิสติกส์ โดยหุ้น PTT, TOP และ BEM ปรับตัวลดลงตามแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติ ขณะเดียวกันตลาดยังจับตาการเคลื่อนไหวของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าจะมีมาตรการพิเศษใดมารองรับสถานการณ์ในกรณีที่ความขัดแย้งลุกลาม
ทั้งนี้ นักลงทุนบางส่วนเริ่มโยกย้ายเงินลงทุนเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ และพันธบัตรรัฐบาล ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นเบาบางกว่าค่าเฉลี่ย

ภาครัฐเตรียมหารือมาตรการรองรับหากสถานการณ์ยืดเยื้อ
กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเปิดประชุมด่วนช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อประเมินผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและหามาตรการบรรเทาเบื้องต้น หากสถานการณ์ชายแดนยังคงตึงเครียด ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงยังคงตรึงกำลังอย่างใกล้ชิด พร้อมแถลงเตือนรัฐบาลกัมพูชาว่าหากยังมีการยิงปืนใส่พลเรือนอีก กองทัพไทยอาจใช้อาวุธหนักตอบโต้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะหาทางออกผ่านช่องทางการทูตในเร็ววัน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบระยะยาวต่อเศรษฐกิจทั้งสองประเทศ