วิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา กระทบแบรนด์สินค้าไทยส่งออกติดขัด-ไม่มีแรงงาน

สถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชาที่ปะทุขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน 2568 ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะแบรนด์ไทยที่มีตลาดหลักในกัมพูชา ทั้งด้านการขนส่งสินค้าทางบกที่หยุดชะงัก และการชะลอใช้งบโฆษณาเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางภาพลักษณ์ หลายบริษัทต้องปรับแผนการผลิตและการตลาดอย่างเร่งด่วน ขณะที่หน่วยงานรัฐประเมินความเสียหายเบื้องต้นกว่า หนึ่งหมื่นล้านบาท

ปิดด่านชายแดน ฉุดโลจิสติกส์และการส่งออกสะดุด

การปิดจุดผ่านแดนหลักระหว่างไทยและกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน ส่งผลให้การขนส่งสินค้าทางบกหยุดชะงักทันที ผู้ส่งออกต้องเปลี่ยนไปใช้เส้นทางทางทะเลแทน ซึ่งมีต้นทุนสูงกว่าและใช้เวลานานขึ้นหลายวัน ทำให้เกิดความล่าช้าในการส่งมอบและกระทบต่อการบริหารสต็อกสินค้า

บริษัท Carabao Group เปิดเผยว่า การหยุดขนส่งทางบก 7–8 วันในไตรมาส 2 ทำให้ยอดขายในตลาด CLMV ลดลงราว 4% แม้ในประเทศไทยความต้องการเครื่องดื่มพลังงานยังเติบโต แต่ปัญหาด้านโลจิสติกส์ทำให้รายได้รวมต่ำกว่าที่คาดไว้

แบรนด์ มาม่า ถือเป็นแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายใหญ่ โดยครองส่วนแบ่งการตลาดในกัมพูชาได้ถึง 80% การปิดด่านชายแดนส่งผลให้โรงงานในกัมพูชาไม่สามารถรับวัตถุดิบได้ตามปกติ ทำให้บริษัทตัดสินใจระงับการผลิตสินค้าสำหรับส่งออกทันที โดยต้องหาช่องทางขนส่งทางทะเลเข้ามาแทน

ในขณะเดียวกัน Big C ได้ระงับแผนขยายสาขาในกัมพูชาในปี 2025–2026 และหันไปมุ่งเน้นพัฒนาสาขาในลาวและเวียดนามแทน โดยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดก่อนจะเริ่มแผนขยายตลาดในกัมพูชาหลังสถานการณ์คลี่คลาย

แรงงานกัมพูชากลับประเทศ ผลิตภัณฑ์ขาดช่วง

นอกจากปัญหาขนส่งแล้ว วิกฤตครั้งนี้ยังกระทบโดยตรงต่อแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในภาคการผลิตของไทย บริษัท Pan Asia Footwear Plc ระบุว่าแรงงานกัมพูชาประมาณ 70% ได้เดินทางกลับประเทศ ส่งผลให้กำลังการผลิตรองเท้าลดลง 20–30% และทำให้การส่งมอบสินค้าให้คู่ค้าต่างประเทศล่าช้ากว่ากำหนด

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้หลายโรงงานต้องเร่งหาทางออก เช่น การเพิ่มกำลังคนชั่วคราวจากพื้นที่ใกล้เคียง และการปรับรอบการผลิต เพื่อลดผลกระทบต่อสายการผลิตหลัก

งบโฆษณาถูกระงับ แบรนด์ไทยระวังผลกระทบภาพลักษณ์

แบรนด์ไทยที่ทำการตลาดในกัมพูชาหลายรายตัดสินใจชะลอการใช้งบโฆษณา และเลื่อนการเปิดตัวสินค้าใหม่ออกไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าไม่ให้ความสำคัญกับสถานการณ์ความขัดแย้ง การสื่อสารการตลาดจึงถูกจำกัดอยู่เพียงบางช่องทางและเน้นในตลาดภายในประเทศแทน

ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเตือนว่า ช่วงที่แบรนด์ไทยชะลอการทำตลาด อาจเปิดโอกาสให้คู่แข่งจาก จีน และ เวียดนาม รุกเข้ามาชิงส่วนแบ่งในกัมพูชาได้ง่ายขึ้น หากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจต้องใช้เวลานานและงบประมาณสูงเพื่อกู้คืนความนิยมในตลาด

ความเสียหายทางเศรษฐกิจและมาตรการเยียวยา

รัฐบาลไทยประเมินความเสียหายเบื้องต้นจากวิกฤตชายแดนอยู่ที่กว่า หนึ่งหมื่นล้านบาท หรือประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเตรียมจัดงบประมาณเยียวยามูลค่า 25 พันล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและแรงงานที่ได้รับผลกระทบ

หน่วยงานด้านเศรษฐกิจและการค้ากำลังหารือร่วมกับภาคเอกชนเพื่อจัดทำแผนรองรับ หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายในระยะสั้น โดยเน้นการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านอื่น และเร่งเจรจาด้านความร่วมมือโลจิสติกส์เพื่อกระจายความเสี่ยง

“บิ๊กเล็ก” ซัดกัมพูชาไร้มนุษยธรรม วางทุ่นระเบิด ละเมิดอธิปไตยไทย จี้นานาชาติกดดัน

หนักกว่าเดิม ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก “ลุงพล” 26 ปี คดีน้องชมพู่