ก.ล.ต. ลงโทษ “ต๊อบ เถ้าแก่น้อย” ซีอีโอ TKN ปรับ 11.6 ล้านบาท และห้ามเป็นผู้บริหาร 20 เดือน หลังใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น ก่อนเปิดเผยผลประกอบการบริษัท
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีคำสั่งลงโทษทางแพ่งต่อ นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ หรือ “ต๊อบ เถ้าแก่น้อย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ปรับเป็นเงินกว่า 11.6 ล้านบาท พร้อม ห้ามดำรงตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหาร 20 เดือน หลังตรวจพบว่ามีการใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการและการจ่ายปันผลต่อสาธารณะ
ก.ล.ต. เอาผิด 5 รายกรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น TKN
ก.ล.ต. เปิดเผยว่าได้ดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบุคคล 5 ราย ได้แก่ อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์, ณัชชัชพงศ์ พีระเดชาพันธ์, พนิดา วิริยะกิจนุกูล, ฐิติรัตน์ ภานุวัฒน์วนิชย์ และ จักรพันธ์ ชาติปรีชา รวมมูลค่าค่าปรับกว่า 16.39 ล้านบาท โดยทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าซื้อขายหุ้นของ TKN โดยใช้ข้อมูลภายในที่ยังไม่เปิดเผยต่อประชาชน
ข้อมูลภายในที่ถูกนำมาใช้คือผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2565 ของ TKN ซึ่งมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 179.97 ล้านบาท พร้อมการประกาศ จ่ายเงินปันผลพิเศษ 0.08 บาทต่อหุ้น ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นสาระสำคัญที่มีผลบวกต่อราคาหุ้น แต่ยังไม่ได้เผยแพร่สู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ
พบใช้บัญชีผู้อื่นซื้อหุ้นก่อนเปิดเผยข้อมูล
ก.ล.ต. ระบุว่า ระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม – 9 พฤศจิกายน 2565 ก่อนที่บริษัท TKN จะเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะในวันที่ 10 พฤศจิกายน นายอิทธิพัทธ์และนายณัชชัชพงศ์ ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูง ได้ซื้อหุ้นของบริษัทผ่านบัญชีของบุคคลอื่น โดยนายอิทธิพัทธ์ใช้บัญชีของ พนิดา วิริยะกิจนุกูล ส่วนณัชชัชพงศ์ใช้บัญชีของ ฐิติรัตน์ และ จักรพันธ์ เพื่อปกปิดการทำธุรกรรม
พฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม มาตรา 242(1) ประกอบมาตรา 243(1) ของ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ว่าด้วยการซื้อขายหลักทรัพย์โดยอาศัยข้อมูลภายใน หรือที่เรียกว่า Insider Trading ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดทุน
ค.ม.พ. มีมติใช้มาตรการลงโทษทางแพ่ง
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิดทั้ง 5 ราย โดยสรุปดังนี้
อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง 11,601,063 บาท และถูกห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 20 เดือน
ณัชชัชพงศ์ พีระเดชาพันธ์ ชำระค่าปรับ 2,916,030 บาท และห้ามเป็นผู้บริหาร 14 เดือน
พนิดา วิริยะกิจนุกูล ชำระค่าปรับ 625,197 บาท และห้ามเป็นผู้บริหาร 13 เดือน
ฐิติรัตน์ ภานุวัฒน์วนิชย์ และ จักรพันธ์ ชาติปรีชา ชำระค่าปรับคนละ 625,197 บาท และห้ามเป็นผู้บริหารคนละ 9 เดือน
การลงโทษจะมีผลตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามยินยอมปฏิบัติตามมาตรการ หากผู้ใดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะส่งเรื่องให้พนักงานอัยการฟ้องต่อศาลแพ่ง เพื่อให้ลงโทษในอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด
เงินค่าปรับนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ระบุว่า เงินค่าปรับทางแพ่งและผลประโยชน์ที่ชดใช้คืนจากการกระทำความผิดทั้งหมด จะถูกนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ผ่านกระทรวงการคลัง เพื่อใช้ประโยชน์ในการบริหารและพัฒนาตลาดทุนไทยให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรมยิ่งขึ้น
หน่วยงานกำกับฯ ยังย้ำว่า จะเดินหน้าตรวจสอบธุรกรรมในตลาดทุนอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุน และป้องกันไม่ให้เกิดกรณีการใช้ข้อมูลภายในในอนาคต


