ภูมิธรรมย้ำโครงการดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท วันที่ 17 กันยายน 2567 คาดว่ากระทรวงการคลังจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการพิจารณา หากเห็นชอบแจกเงินสด 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบางเป็นกลุ่มแรกทันที ประมาณ 14 ล้านคน ภายในเดือนกันยายน 2567 นี้ ลอตต่อไปปลายปี 2567
วันที่ 9 กันนายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ซึ่งเป็นนโยบาย “เรือธง” ของรัฐบาล โดยเดินหน้าต่อแน่นอน เพราะเป็นหมายคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยวันที่ 17 กันยายน 2567 กระทรวงการคลังจะเสนอโครงการดิจิทัลเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการพิจารณางบประมาณโครงการ ทั้งนี้ หากเห็นชอบก็จะดำเนินการแจกเงินสด 10,000 บาทให้กับกลุ่มเปราะบางเป็นกลุ่มแรกทันที ซึ่งมีประมาณ 14 ล้านคน ภายในเดือนกันยายน 2567 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ หาก ครม. พิจารณเห็นชอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการขั้นตอนเพื่อแจกเงินสด 10,000 บาทให้กับกลุ่มเปราะบางเป็นกลุ่มแรก โดยไม่ได้กำหนดสินค้า และพื้นที่การจับจ่ายซื้อสินค้า โดยสามารถซื้อสินค้าอะไร ที่ไหนก็ได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป้าหมายของโครงการนี้รัฐบาลนอกจากช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ต้องการให้ประเทศไทยเข้าสู่ระบบดิจิทัล
“ซึ่งมีประเด็นที่ไม่เห็นตรงกันบ้าง แต่ก็พยายามปรับแก้ไขเพื่อให้โครงการเดินหน้าไปได้ และเมื่อ ครม.เห็นชอบ เงิน 10,000 บาทลอตแรกจะโอนเข้าบัญชีกลุ่มเปราะบางทันที”
ส่วนประชาชนที่ลงทะเบียนไว้ประมาณ 10 ล้าน เมื่อผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ จะได้รับเงินแบ่งเป็น 2 รอบ โดยรอบแรก 5,000 บาท แต่ทั้งนี้ จะพิจารณาหากระบบเสร็จทันก็จะดำเนินการผ่านระบบดิจิทัลวอลเลต แต่หากไม่ทันจะได้รับเงินสดภายในสิ้นปี 2567 นี้
ส่วนอีก 5,000 บาทที่เหลือ จะพิจารณาจ่ายให้ในปี 2568 โดยตั้งใจจะทำให้เป็นการใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัลวอลเลต ซึ่งได้ฝากให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ช่วยรวบรวมร้านค้า เพื่อมารองรับ เพราะเป้าหมายโครงการไม่ได้ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว
แต่ต้องการนำพาประเทศเข้าสู่ระบบดิจิทัล และเตรียมพร้อมให้ประชาชน เรียนรู้เข้าสู่โครงสร้างการเงินใหม่ และยังต้องทำต่อไปเพื่อไม่ให้เสียวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลต้องการเดินหน้า และจำนวนเงินที่ลงไปจะส่งผลต่อการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ 2 รอบ
อย่างไรก็ดี โครงการเงินดิจิทัลวอลเลตเป็นโครงการสำคัญ ยังคงเดินหน้าต่อไป และก้อนแรกที่จะลงแล้ว ก็จะมีเงินก้อนสองลงต่อเนื่องไปอีกเป็น 1-2 แสนล้านบาทที่กระตุ้นเศรษฐกิจ


