พวกมือไม่ถึง อย่าพึ่ง “แอ่นแอนแอ๊น”วิกฤติ “กำแพงภาษี ทรัมป์” หนักขนาดไหน…..? ถามใจ “นายใหญ่” ดู

ตอนที่ต้องเข็นลูกสาวคนสุดท้อง “แพทองธาร ชินวัตร” ออกมารับบทผู้นำประเทศไทย รับไม้ต่อจาก “เศรษฐา ทวีสิน” ที่เจอ Accident ทางอำนาจ ต้องพ้นตำแหน่งไปด้วยอิทธิฤทธิ์ศาลรัฐธรรมนูญ ยังออกอาการดี๊ด๊า เมื่อผลสำรวจของทุกโพล ชี้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ทุกวงสนทนา “ทักษิณ ชินวัตร” จะแสดงความมั่นอกมั่นใจกับคนใกล้ชิด และผู้ที่แวะเวียนไปเยี่ยมเยียน ว่าจะสามารถเจรจาต่อรองผลประโยชน์ เรียกคืนความเชื่อมั่นกลับมาจากสหรัฐได้ เพราะ ทักษิณ รู้ดีว่า ภาพลักษณ์ประเทศไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ถูกเอาไปผูกติดไว้กับจีน ตามยุทธศาสตร์อำนาจประเทศไทย

ทำให้ไทยถูกอดีตมหามิตร กาหัวมาตลอด และทันทีที่ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง นโยบายหลัก America First จึงถูกปัดฝุ่นนำกลับมาใช้แทบจะทันที หลังพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง

ทั้งคู่แข่ง คู่ค้า ของสหรัฐ ถูกมาตรการตั้งกำแพงภาษีเล่นงาน จนพลิกตำรารับมือกันแทบไม่ทัน โดนกันไปทั่วโลก

จนวันนี้ ผู้นำจิตวิญญาณรัฐบาลเพื่อไทย แทบจะเอาหลังเท้าก่ายหน้าผาก จับอาการดูก็รู้ว่า ความมั่นใจนั้นแทบจะไม่มีหลงเหลืออยู่ ทำได้แค่ประคองตัวไปวันๆ

แล้วยิ่งอภิมหาโปรเจกต์ “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่รัฐบาลชุดนี้หวังฝากผีฝากไข้ จะดึงดูดความสนใจของผู้ลงทุน จะดึงเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเข้าประเทศ โดนเตะสกัดตั้งแต่หน้าปากซอย

หลายคนเริ่ม เอ๊ะ ๆ ….. ไม่มั่นใจว่า ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะคลอดออกมาได้ในอายุขัยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร นี้หรือไม่ เพราะกระแสวันนี้มีแรงต้านจากทุกสารทิศ เป้าหมายเดียวกัน คือการโค่นรัฐบาล

เราจะเห็นม็อบกลุ่มต้าน ขาประจำหน้าเดิมๆ เริ่มขยับออกมาทีละคน ทีละกลุ่ม

ขณะที่คนในพรรคเพื่อไทย กลับไม่รู้สึกรู้สา พยายามจะเร่งโชว์ผลงานให้เข้าตา “นายใหญ่” ชัดๆ เลยก็ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.เพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน ที่หวังกับตำแหน่งรัฐมนตรี เดินสุดซอยมันทุกเรื่อง

แน่นอนว่าตัว นายกฯ แพทองธาร ยังไม่อยากขยับปรับ ครม. ให้เกิดแรงกระเพื่อมภายในรัฐบาล แต่ก็คงฝืนแรงกดดันจากภายในและภายนอกไม่ไหวแน่

รัฐมนตรีหลายคนพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มือไม่ถึง ใช้ปากทำงานมากกว่ารอยหยักในสมอง และยิ่งมาผนึกกับวิกฤติซ้อนวิกฤติหลายชั้นเช่นนี้ ยังไงก็ต้องมีการปรับหมาก ปรับขบวนกันแน่

ที่สำคัญคือ คนในบ้านจันทร์ส่องหล้า ทั้งขั้ว “นายใหญ่” “นายหญิง” “นายหญิงเล็ก” “นายหญิงน้อย” เครือญาติโกโหติกาทั้งหลาย ต้องไปเคลียร์กันซะก่อน ว่าจะเอาตัวรอดแค่วันนี้ หรือจะซ้ำรอยเดิมประวัติศาสตร์

อย่างที่ วิสุทธิ์ ออกมาโยนบาปใส่ฝ่ายค้าน ที่ออกมาง้างอ้อยออกจากปากช้าง สกัดร่างกฎหมายกาสิโนว่า
“อย่าให้ประชาชนเบื่อการเมือง ถ้าเบื่อมากๆ เดี๋ยวทหารออกมาอีก อยากให้เป็นเช่นนั้นหรือ”

พวกนกรู้การเมือง จับอาการม็อบที่ออกมาเคลื่อนไหวแบบไม่ปกติออก

ซึ่งคนในขั้วรัฐบาล ก็พยายามออกมาโน้มน้าว “ฝ่ายค้าน-ฝ่ายแค้น-แนวต้าน” เหล่านี้ มุ่งเน้นตัวเลขเม็ดเงินรายได้ ที่คาดการณ์เอาไว้สวยหรู ว่ารัฐจะมีรายได้ถึง 1.19 – 2.38 แสนล้านบาท ยังเพิ่มอัตราจ้างงานได้ 9,000 ถึง 15,300 อัตรา รวมถึงสร้างรายได้จากการจัดเก็บภาษีเข้าประเทศได้ 1.2 – 4 หมื่นล้านบาทต่อปี

พยายามโยงให้คนคล้อยตามว่า ประเทศในเอเชีย ที่มีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ประกอบไปด้วย กาสิโน โรงแรม ศูนย์การค้า สวนสนุก และสถานที่จัดแสดงต่างๆ อย่าง มาเก๊า สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ มาเลเซีย และล่าสุด ญี่ปุ่น กำลังสร้าง Integrated Resort (IR) ที่โอซาก้า ที่จะมีกาสิโนและศูนย์บันเทิงขนาดใหญ่

ดูแล้วรัฐบาลคงเลือกที่จะลุยไฟ ไม่ทำประชามติ กฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะมั่นใจในเสียงพรรคร่วมรัฐบาล คงไม่มีใครหน้าไหนกล้าทิ้งชิ้นปลามันชิ้นนี้

เสียงโหวตให้เลื่อนวาระการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมาไว้ในวาระแรกๆ ไม่มีแตกแถว ส.ส.ภูมิใจไทยที่เคยดาหน้าออกมาค้าน มาวันนี้ยกมือสลอนเป็นฝักถั่ว

เรายังได้เห็นฉากการเมืองตบจูบ แบบละครซาดิสม์ ระหว่าง 2 ค่าย เพื่อไทย – ภูมิใจไทย บนกองผลประโยชน์มหึมา กันอีกหลายฉาก

ส่วนประชาชนและประเทศชาติจะได้อะไรอย่าไปคิด เพราะดีลข้ามขั้ว มันมีต้นทุนอันสูงลิบที่ต้องจ่าย

และตัว “นายใหญ่” เอง ก็ยังมั่นใจกับ “ตั๋วพิเศษ” จากดีลข้ามขั้ว ยังไม่กล้าเด็ดปีกนางฟ้าอิ๊งค์ ในตอนนี้ ปัจจัยยังไม่เอื้อให้ พวกมือไม่ถึง ออกมาแอ่น แอนแอ๊น…..

แพทองธาร, ทักษิณ, เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์, ทรัมป์, รัฐบาลเพื่อไทย

ใต้เงาไท

ไตรรัตน์ฟ้อง 4 กสทช. ปมถูกปลดจากตำแหน่ง 8 เม.ย. ศาลชี้ชะตา ท่ามกลางคำถามเรื่องระบบตรวจสอบในองค์กรรัฐ

ครม.ไฟเขียวร่าง พ.ร.ก.ไซเบอร์ คุมภัยออนไลน์-เข้มมือถือและธนาคาร