บรรยากาศเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เริ่มเปิดเพลงเซิ้งๆ ฉลองปีใหม่แบบไทยๆ
ในจังหวะที่รัฐบาลผสมยุคพ่อมหาจำเริญ สั่งกดปุ่มลัดคิวร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ สอดไส้กาสิโน 10% เข้าพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 9 เม.ย. 68

เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ ในสัปดาห์นี้ คือวันที่ 11 เม.ย. 68
เปิดสภาฯ เทอมใหม่ดันเข้าวาระ 2 พิจารณารายมาตราและวาระ 3 เห็นชอบร่างกฎหมายฉบับนี้ ส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อ
ภายในปีนี้เล็งออกใบอนุญาตตอกเสาเข็ม

เกิดปรากฏการณ์กลุ่มต่างๆ ในสังคมประกาศต่อต้านเป็นรายวัน โดยเฉพาะหลัง ส.ส. พรรคเพื่อไทยอาการร้อนรนคล้ายโหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยจนเกิดวิกฤติการเมืองยาวนาน

ครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน ชิงเลื่อนญัตตินี้ขึ้นมาพิจารณาก่อน เหมือนไม้ขีดไฟก้านเดียวจุดทิ้งบนทุ่งนา
ไฟแห่งการต่อต้านรัฐบาลจุดติดทันที

ศรัทธารัฐบาลทรุดต่อเนื่อง
นับจาก น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกซักฟอก
ลากมาถึงการผลักดันปมร้อนสีเทา โดยมีภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสงครามภาษีโลกของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่พยายามจัดระเบียบโลกใหม่ ก็ถาโถมทดสอบศักยภาพของ “รัฐบาลอิ๊งค์”

บนเสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาลเปราะบางมาก
เห็นได้จากมีมือดีปล่อยข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขู่พรรคร่วมรัฐบาล หากพรรคไหนไม่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ต้องขับพ้นรัฐบาลทันที

เพื่อไทยรู้ทันทีโดยอัตโนมัติว่าพรรคไหนปล่อยข่าว
เพื่อให้ผู้มีอำนาจในพรรคเพื่อไทยการันตีซ้ำอีกรอบ เพิ่มความมั่นใจว่าพรรคที่เปิดไพ่ใบนี้ได้รับก้อนเค้กแห่งผลประโยชน์ชัวร์
โดยเพิ่มใบอนุญาตเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ให้กลุ่มทุนของตัวเอง สะสมหน้าตักเตรียมเลือกตั้งใหญ่

และพรรคที่ปล่อยข่าว จงใจเปิดเกมเขย่า ส.ส. พรรคประชาชนที่เป็นไทยมุสลิม ซึ่งเคยประกาศไม่รับร่างกฎหมายฉบับนี้อยู่แล้ว
จึงบรรจงเขย่าพรรคประชาชาติที่เป็นไม้เบื่อไม้เมามาตลอด ถึงวันนี้พรรคประชาชาติยังย้ำจุดเดิม

ในจังหวะที่ปล่อยข่าวออกมา
ยังไม่มีท่าทีของผู้นำประเทศที่หยี่หระต่อเสียงของประชาชน
เพราะจนถึงช่วงเช้าวันที่ 8 เม.ย. ประชุม ครม. บรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลยังประสานเสียงทิศทางเดียวกัน พร้อมสนับสนุนเต็มที่

ยังดีมีพรายกระซิบ ทำให้ย้อนนึกถึงคำพูดของ “จอห์น ล็อค” ที่ระบุว่า
“เมื่อรัฐกระทำการเพิกเฉยต่อประชาชน นั้นคือเข้าเงื่อนไขการปฏิวัติ”

ถึงวันนี้โชคดีที่รัฐบาลถอย และเลื่อนไปพิจารณาหลังเปิดเทอมสภาในสมัยประชุมถัดไป
เพื่อให้รัฐบาลตั้งหลักรับมือเกมเปลี่ยนกติกาโลกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
แม้ยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ว่า “ประเทศไทยต้องดีกว่าเดิม”

พอได้เห็นนายทักษิณประกาศ
“สงกรานต์ปีนี้ เป็นปีที่ท้าทายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ตอนที่ผมเป็นนายกฯ มีวิกฤติต้มยำกุ้ง เหมือนหลังคาบ้านโดนลมพัดเปิด

แต่วิกฤติเศรษฐกิจปีนี้มีปัญหาเชิงโครงสร้าง ต้องฟื้นฟูขนาดใหญ่ ปีนี้จะเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ เห็นผลชัดเจนในปี 2569”

เวลาเป็นตัวพิสูจน์
ผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทยฟื้นฟูศรัทธาสำเร็จ หรือกู่ไม่กลับ

ม้าสีหมอก