ลมบนเขย่า กระดานอำนาจเปลี่ยน

ลมบนเปลี่ยนทิศ เขย่าอำนาจรัฐบาลเพื่อไทย

สัญญาณที่ไม่สู้จะดี ออกมาพร้อมกันติด 2 ดอก ในวันเดียว

กรณีแรก
คณะกรรมการแพทยสภา หรือ บอร์ดแพทยสภา
มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน
หลังมีการตรวจสอบจริยธรรมทางวิชาชีพเวชกรรม
ของแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ
กรณีการพักรักษาตัวของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ

เป็นการ ว่ากล่าวตักเตือน 1 คน
กรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ได้มาตรฐาน
และสั่ง พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน
กรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง

คนผิดเป็นแพทย์เฉพาะทาง – แพทย์ออร์โธปิดิกส์

เหตุผลหลักที่สั่งลงโทษ
เพราะข้อมูลที่ได้รับ ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจน
ว่า มีภาวะวิกฤติเกิดขึ้น
…..จะ “ป่วยทิพย์” หรือไม่ ไปตีความกันเอาเอง

หลังจากนี้
บอร์ดแพทยสภาต้องส่งมติต่อ สภานายกพิเศษ
คือ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข โดยตำแหน่ง
เพื่อขอความเห็นชอบก่อนดำเนินการตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม ต่อไป

ผู้อยู่ที่ว่า
สมศักดิ์ จะกล้างัดข้อกับมติของแพทยสภา หรือไม่
แต่เชื่อว่า เซียนการเมืองระดับ เหยียบหิมะไร้รอย อย่างสมศักดิ์
คงไม่กล้าฝืน ต้อง เล่นตามน้ำไปกับแพทยสภา

ส่วนดอกที่ 2
ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ ทักษิณ เดินทางไปกาตาร์
ตามคำเชิญของเจ้าผู้ครองนครรัฐกาตาร์
โดยชี้ว่าเป็น หมายนัดส่วนตัว

โดนไปสองดอกในวันเดียว
ทำให้มองว่า หรือ ตั๋วพิเศษ ที่แลกกับ ดีลข้ามขั้ว
ใกล้จะหมดอายุลงทุกทีแล้ว

เราเลยได้เห็น การซัดมีดสั้นโต้กลับ ใส่อีกขั้วในรัฐบาล
ตอนนี้ขั้วน้ำเงินก็โดนหนักไม่แพ้กัน
กับ คดีฮั้วเลือกสว. ที่ส่วนใหญ่เป็น ก๊วนสีน้ำเงิน
หลัง ดีเอสไอ ใช้เวลารวบรวมพยาน หลักฐานมาพักใหญ่

ก็เริ่มเดินเครื่องร่วมกับ กกต.
ออกหมายเรียกสว. ที่อยู่ในลิสต์คดี โพยฮั้ว
มารับทราบข้อกล่าวหา
ล็อตแรกโดนไป 53 คน จากทั้งหมดราว 140–150 คน

มีทั้งส่งหมายเรียกไปทางไปรษณีย์
และเจ้าหน้าไป ปิดหมายถึงหน้าบ้าน

งานนี้วงในแว่วว่า
เอากันถึงตาย ด้วยข้อมูลหลักฐาน เส้นทางการเงิน
โดยเฉพาะ คลิปที่เก็บรวบรวมไว้ทั้งหมด
มีโยงไปถึงระดับ มาสเตอร์มายด์ แกนนำคนสำคัญในขั้วสีน้ำเงิน

แม้จะมี บุคคลระดับสูง ต่อสายมายัง รัฐมนตรี ที่มีอำนาจสอบสวน
แต่ก็มีคำยืนยันให้เจ้าหน้าที่ของดีเอสไอ
เดินหน้าสอบสวนต่อไป โดยให้ยึด ข้อกฎหมาย และ หลักฐาน เป็นสำคัญ

งานนี้ เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว
เชือดไพร่ราบพลเลว กระทุ้งไปถึง ตัวการใหญ่ ที่คอยบงการอยู่เบื้องหลัง

แลกกันคนละดอก
หมากเกมนี้ใครพลาดพลั้งถึงขั้น สิ้นชีพทางการเมือง กันเลย

เกมอำนาจข้างบน ก็ชักเย่อกันไป
แต่คนที่รับกรรมกลายเป็น ประชาชนชาวบ้านอย่างเราๆ
ลำพังแค่วิกฤติการเมือง วิกฤติเศรษฐกิจโลก ก็ หนักหนาสาหัส กันอยู่แล้ว
ยังมาเจอ วิกฤติอำนาจซ้อน ขึ้นมาอีก

อยู่ที่ แกนนำหัวขบวนขั้วอนุรักษ์
จะประเมินราคาของ เพื่อ – นายใหญ่ กับ ก๊วนสีน้ำเงิน อย่างไร
จะให้ราคาฝั่งไหน สูงกว่า

ถ้าจะสลัดขั้วสีแดง เพื่อไทยทิ้ง
แล้วเชิดสีน้ำเงินขึ้นมาแทน
ก็ต้องมั่นใจว่า ศึกเลือกตั้งรอบหน้า
ภูมิใจไทยจะมาเป็นที่ 2 ชัวร์ๆ
และต้องมีจำนวน ส.ส. ไม่ห่างจากพรรคชนะเลือกตั้งอันดับ 1 ไม่มาก

ถึงจะ ชิงธงจัดตั้งรัฐบาลได้

ณ วันนี้
ทั้ง “เน – หนู” ดูจะมั่นใจกับการถือ ตั๋ววิเศษ ในมือ
มี สัญญาณเชิงบวก ออกมาเป็นกระสาย
ว่า มีลมบนคอยช่วยพยุง

ต่างคนต่างจ้อง ซัดมีดสั้นเข้าใส่กัน แบบไม่มีใครยอมใคร
ยิ่งทำให้ เสถียรภาพของรัฐบาลดำดิ่งลง

ประกอบกับการบริหารประเทศภายใต้การนำของ
แพทองธาร ชินวัตร
มันเกินขีดจำกัดของ ผู้นำนายหญิงน้อย แล้ว

ถ้าไม่มี การเปลี่ยนตัวผู้นำ
ก็ รอนับถอยหลัง การเมืองในระบอบ

ทักษิณ, แพทยสภา, ฮั้วเลือกสว, รัฐบาลเพื่อไทย, ลมบนการเมือง

หนังม้วนยาวชื่อ “ประธาน (ไม่) ครบคุณสมบัติ”

สนามบินตรัง สร้างไม่เสร็จ…แต่ความเงียบสมบูรณ์แบบ