คลื่นความหนาวแผ่ปกคลุมไปถึงเมืองดูไบ
ยิ่งเป็นการตอกฝาโลงว่าในระยะเวลาอันใกล้ 2 – 3 ปีนี้
อดีตนายกฯ ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ไม่มีทางได้มาเหยียบแผ่นดินแม่ อย่างที่อดีตนายกฯ พี่ชาย ทักษิณ ชินวัตร เคยคุยโตเอาไว้

ตอนนั้น “พี่โทนี่” ถึงขั้นมั่นใจ
ประกาศออกสื่อว่าอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์
จะได้กลับมาเล่นสงกรานต์
สาดน้ำกับพี่น้องชาวเมืองเชียงใหม่ และชาวไทยทั่วประเทศ
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทยแน่

หลังจากศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษา
ในคดีพิพาทระหว่างอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ กับพวกรวม 2 คน (ผู้ฟ้องคดี)
กับนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพวกอีก 9 คน
เกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
และคดีพิพาทที่เกี่ยวกับความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครอง
หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย
กรณีการเรียกความเสียหายทางละเมิด คดีโครงการรับจำนำข้าว
มูลค่ารวมกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท

ที่ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาแก้
มีคำสั่งให้ยิ่งลักษณ์ชดใช้ความเสียหาย
ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท
โดยวินิจฉัยเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง
ที่สั่งให้ยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว
3.5 หมื่นล้านบาท ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

แต่ยังคงสั่ง ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหาย
ที่เกิดเฉพาะในส่วนของการระบายข้าว (จีทูจี)
50% ของมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท
เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจทางปกครองดำเนินการ

เรื่องนี้ยังเป็น หนังม้วนยาว
ขั้นตอนต่อไป กระทรวงการคลังต้องแจ้งให้ยิ่งลักษณ์มาชำระหนี้ภายในกำหนด
หากไม่ชำระภายในกำหนด
จะมีอำนาจฟ้องศาลปกครองอีกคดีหนึ่ง
ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง มาตรา 3 ประกอบมาตรา 9
และวิธีพิจารณาคดีปกครอง

ซึ่งก็เล่นเอาอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์
ถึงกับโอดครวญหลังรับทราบคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

“หนี้ 1 หมื่นล้านบาท ชดใช้ทั้งชีวิต ยังไงก็ไม่มีวันหมด”

พร้อมประกาศลั่น

“จะสู้คดีต่อไปให้ถึงที่สุด”

ไม่รู้ว่าคดีนี้มาถูกที่ถูกเวลาหรือไม่
เพราะระหว่างศึกชิงอำนาจที่ชักคะเย่อกันของ สีแดง และสีน้ำเงิน
กำลังเข้าสู่จุดไคลแม็กซ์

ล่าสุด คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ของ กกต.
ออกหมายเรียกลอตที่ 3
รอบนี้กลับมาเป็น ก๊วนสว.สีน้ำเงิน อีก 24 คน
ในกลุ่ม ทำสวน ทำนา เอสเอ็มอี ลูกจ้าง
ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา และชี้แจงข้อกล่าวหา

ศึกดวลมีดรอบนี้ ต้องย้ำกันอีกรอบว่า เอากันให้ตายไปข้าง

ถึงนาทีนี้มันชัดยิ่งกว่าชัด
มีคนระดับ บิ๊กเบิ้ม จ้องจะหักดีลพิเศษ
เดินเกมหวังให้เปลี่ยนตัวผู้นำประเทศ

ถ้า “นายใหญ่” จะไม่หลอกคนในเครือข่าย – แฟนคลับ
ให้หลับหูหลับตากระเตงดีลพิเศษกันต่อ
ต้องรู้แน่ว่ากำลังสู้อยู่กับใคร

ความมั่นอกมั่นใจที่เคยมี
ตอนนี้มันเหลือไม่ถึง 1%
ด้วยศักยภาพของ มือวิเศษ ที่คอยเป็นลมใต้ปีก
ช่วยอุ้มค่ายน้ำเงินเอาไว้

งานนี้แทงหวยเต็ง ใส่เต็มเกียร์
ต้องเอา “เสี่ยหนู” ขึ้นนายกฯให้ได้

แต่จุดชี้ขาดสถานการณ์คว่ำดีลพิเศษครั้งนี้
คือ ชะตากรรมของทายาทหัวแก้วหัวแหวน
ของทั้งขั้วแดง ขั้วน้ำเงิน
ที่ทั้ง นายกฯผู้ลูก และ ลูกชายนายใหญ่เขากระโดง
ล้วนถูกพันธนาการด้วย นิติสงคราม
มีคดีความรออยู่ข้างหน้า

ถ้าจะถามว่าฝ่ายใดกุมความได้เปรียบ ณ นาทีนี้
ก็ต้องบอกว่า ฝ่ายน้ำเงิน
อย่างที่บอก เพราะคนระดับบิ๊กเบิ้มลงมาบัญชาการด้วยตัวเอง

ขนาดเป็นช่วงที่กระแสกำลังแรง
น้ำกำลังเชี่ยว ที่สังคมคอยจับจ้องอย่างนี้
คดีฮั้วเลือกสว. ที่บุรีรัมย์ ยังถูกเป่าไปหน้าตาเฉย

คดีนี้นี่แหละ จะเป็นสารตั้งต้นในการปูทางไปสู่เก้าอี้นายกฯคนที่ 32

เป็นเกมบีบ “นายใหญ่” ให้ต้องถอย
หลีกทางให้ “เสี่ยหนู”
แล้วจะเซ้งพรรคต่อหรืออะไร ก็ว่ากันอีกที

เพราะเหลือตัวเลือกอยู่ไม่กี่ตัว
คือ

• จะยอมเข้าไปอยู่คุกแบบเท่ห์ๆ
• หรือจะให้นายกฯ ลูกสาวลาออก
• หรือจะยุบสภา

แล้วถ้าไม่ยอมเลือกทางไหน ก็เจอ ลัดวงจร – แอ่น..แอ๊น

นี่คือชะตากรรมที่ “นายใหญ่” ไม่อาจหลีกหนี