ออกอาการไม่สู้ดีทั้งพี่ทั้งน้อง
นิติสงครามล็อกตระกูลชินวัตรติดบ่วงข้อกฎหมาย
ล่าสุด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกศาลปกครองสูงสุดสั่งชดใช้ค่าเสียหาย
กรณีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ในคดีจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท
พลิกคำพิพากษาศาลปกครอง ต้องกลับจ่ายเงินหมื่นล้านแก่รัฐ
เซ่นข้อหาประมาทเลินเล่อร้ายแรง ปล่อยให้เกิดการทุจริตขั้นตอนจีทูจี
โดยไม่ฟังคำท้วงติงจากหน่วยงานรัฐที่เคยเตือนให้ระวังการทุจริต
อดีตนายกฯ หญิงอ่วม แบกหนี้หมื่นล้าน ชดใช้ทั้งชีวิตไม่มีวันหมด
มองไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะยังไม่มีการนำเงินที่ได้จากการขายข้าวค้างสต๊อก
มาหักลบหนี้หมื่นล้าน เตรียมหาหลักฐานยื่นสู้คดีใหม่
ดิ้นสลัดบ่วงจำนำข้าว
วิบากกรรมจำนำข้าว วนลูปจองเวร “นายกฯ ปู” ต้องพับแผนเดินทางกลับบ้าน
เลื่อนออกไปไม่มีกำหนด
ในสถานการณ์ที่พี่ชาย “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี
ก็ช่วยเหลือน้องสาวไม่ได้มาก อยู่ในภาวะแกล้งตาย
เคลื่อนไหวอะไรได้ไม่ถนัด
สภาพนายใหญ่ก็ตกที่นั่งลำบากไม่แพ้กัน
ยังเอาตัวแทบไม่รอด ต้องลุ้นการไต่สวนศาลฎีกา
แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
วันที่ 13 มิ.ย.นี้ จะถูกส่งตัวกลับเข้าเรือนจำ
กลับไปติดคุกจริง ๆ หรือไม่
คดีป่วยทิพย์ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ตามหลอน
เขย่าความน่าเชื่อถือกระบวนการยุติธรรม
จนศาลฎีกาฯ ต้องลงมาคุมคดีเอง
มีปมสุ่มสี่ยงจากมติแพทยสภาที่สั่งลงโทษ 3 นายแพทย์
ให้ความเห็นทางการแพทย์ช่วยนายใหญ่ได้รักษาตัวชั้น 14
ทั้งที่ไม่ได้ป่วยขั้นวิกฤติ
น่าจะมีผลเต็ม ๆ กับรูปคดี
วิบากกรมทางคดี ไล่ล่า 2 พี่น้องตระกูลชินฯ “ทักษิณ – ยิ่งลักษณ์” ล้มกลิ้งล้มหงาย
และมีแนวโน้มจะลามเป็นโดมิโน
กระทบไปถึง “นายกฯ อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี
หงายหลังตามไปด้วย
อย่างที่เห็นกระแสดราม่าโจมตีภาพคู่อา-หลาน “ยิ่งลักษณ์ – แพทองธาร”
ที่ “นายกฯ อิ๊งค์” นำมาโพสต์ระหว่างบินไปปฏิบัติราชการที่ประเทศอังกฤษ
ในช่วงเวลาที่ “อาปู” เพิ่งถูกศาลปกครองสูงสุดสั่งชดใช้ค่าเสียหายหมื่นล้าน
โครงการจำนำข้าว
โดนลากไปกระหน่ำเละ
ใช้งบหลวงบินไปพบ “ยิ่งลักษณ์”
จนนายกฯ ต้องโร่ชี้แจงเป็นภาพเก่า ไม่มีการพบกันจริง
ผลพวงคดีพ่อและอา ส่อลามเขย่าเสถียรภาพรัฐบาล
ปั่นกระแสกันว่อนทั้งข่าว “ทักษิณ” หนีออกนอกประเทศ
และกรณีเตรียมเปลี่ยนตัวนายกฯ
ปล่อยข่าวกันฝุ่นตลบ
ในห้วงที่ “เพื่อไทย – ภูมิใจไทย” กำลังตะลุมบอนกันยับในคดีการฮั้วเลือก ส.ว.
เริ่มเปลี่ยนจากสงครามตัวแทนแดง – น้ำเงิน มาเปิดหน้าซัดกันโต้ง ๆ
2 พรรคเคลียร์ใจกันยากขึ้นทุกขณะ
ต่างฝ่ายต่างซ่อนดาบรอจังหวะจ้วงทีเผลอ
ติดอาวุธนิติสงคราม ประจันบาญทางข้อกฎหมาย
แนวโน้มสู้กันแตกหัก ถ้ายังปิดดีลกันไม่ลง
คงต้องพังกันไปข้าง ขึ้นอยู่กับใครจะเสียท่าก่อนกัน
สถานการณ์ที่ “นายกอิ๊งค์” ภูมิคุ้มกันตก
ในห้วงที่ผู้เป็นพ่อมีบ่วงคดีความหายใจรดต้นคอ
พาลสะเทือนความมั่นคงเก้าอี้ผู้นำ
นโยบายเรือธงกู้แต้ม ดิจิทัลวอลเล็ตเข้าขั้นร่อแร่
แจกเงินหมื่นเฟส 3 อาจถูกแช่แข็งถาวร
หลังเห็นคดีจำนำข้าวของอาปูเป็นหนังตัวอย่าง
ขืนทะเร่อทะร่าดำเนินนโยบายสาธารณะที่มีงบประมาณระดับแสนล้าน
แล้วเกิดความเสียหาย ก็เสี่ยงโดนคดีอาญา คดีแพ่ง
ต้องชดใช้มโหฬาร
ตามร่องรอยการแจกเงินหมื่น 2 เฟสแรก
หมดเงินไป 1.74 แสนล้านบาท
แต่ทำได้แค่ปรากฏการณ์ฝนฟ้าคะนองเป็นหย่อม ๆ
ไม่ได้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจตามคำโฆษณา
พูดได้ไม่เต็มปาก เกิดความคุ้มค่า กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่
หาก “นายกฯ อิ๊งค์” ยังกัดฟันเดินหน้าโครงการต่อ
อาจเจอจุดจบอีหรอบเดียวกับโครงการจำนำข้าว
วิบากกรรมจำนำข้าวของอา ส่งสัญญาณถึงหลาน ให้รู้จักถอดบทเรียน
เลี่ยงติดกับกลไกนิติสงครามที่กำลังลามตระกูลชินฯ ล้มเป็นโดมิโน
