รักกันปานเลือดกลบปาก
ฉากการเมืองวันนี้ ไม่มีบทโอ้โลมปฏิโลมกันแล้ว มีแต่ใส่เกียร์ห้า เดินหน้าลุย
เป็นความตั้งใจปล่อยของ ของ “พี่โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำจิตวิญญาณค่ายแดง พรรคเพื่อไทย
ในโอกาสไปแสดงร่วมยินดีกับสื่อดังค่ายบางนา ผ่านบทสัมภาษณ์เชิงวิเคราะห์ต่อสถานการณ์การเมืองขณะนี้
ซึ่งพิธีกรก็ชงให้หวานเจี๊ยบ ถึงบทบาทและอิทธิพลของกระทรวงมหาดไทย
ที่จะเป็นหน่วยหลักในการนำนโยบายของรัฐบาล ลงไปสู่พี่น้องชาวบ้าน
แต่ดันไปอยู่ในมือพรรคร่วมรัฐบาล ที่เป็นคู่รักคู่แค้น อย่างภูมิใจไทย
ทำให้การทำงานที่ผ่านมา ขัดแข้งขัดขาผลักดันผลงานได้ไม่เต็มที่
อดีตนายกฯ ทักษิณกระแทกกันตรงๆ ว่า การนำนโยบายไปถึงประชาชน
กระทรวงหลักคือมหาดไทย แต่วันนี้มันไม่ค่อยถึง
เพราะกระทรวงมหาดไทยยังไม่ค่อยทำเต็มที่ เวลาเหลือแค่ 2 ปีแล้ว
จำเป็นอย่างยิ่งที่มหาดไทยต้องทำงานให้เต็มที่
แล้วแกนนำรัฐบาลอย่างเพื่อไทย จะกล้ายึดคืนหรือไม่
อดีตนายกฯ ทักษิณบอกว่า
“ก็คงต้องพูดกันว่าให้พรรคเพื่อไทยเข้าไปทำบ้าง จะได้ทำนโยบายถึงประชาชนได้สักที
เพราะเวลาเหลือน้อยแล้ว อีก 2 ปีจะเลือกตั้งแล้ว…..
มันเป็นเรื่องการทำงานเพื่อประชาชน ถ้าอยากทำงานให้ได้ผล พรรคเพื่อไทยต้องตัดสินใจ
เพื่อให้นโยบายถึงประชาชนจริงๆ ต้องให้กระทรวงมหาดไทยอยู่ในความดูแลของพรรคเพื่อไทย
นี่คือหลักการ”
มีคำถามสำคัญคือแล้ว ภูมิใจไทย พรรคร่วมอันดับ 2 จะยอมหรือ?
“นายใหญ่” ยังเชื่อว่า น่าจะคุยกันรู้เรื่อง คงไม่ถอนมั้ง เราไม่อยากให้เขาถอนอะ ก็อยู่ด้วยกันมา…..
แต่ถ้าเขาอยู่ไม่ได้ อันนั้นก็เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมการตัดสินใจของแต่ละพรรคได้
แน่นอนว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้ คงได้เห็นการปรับครม. เกิดขึ้นแน่
เพื่อไทยเตรียมยึดคืนกระทรวงเกรด A+++ ที่จะได้ทั้งเงิน ทั้งกล่อง
ปั้นผลงานตีคืนกระแสความนิยมถดถอย ของรัฐบาล
เพราะวันนี้พิสูจน์แล้ว รัฐบาลภายใต้การนำของ นายกฯ Gen-Y มือไม่ถึง
เอาสถานการณ์ไม่อยู่ วิกฤติที่มีทั้งศึกใน – ศึกนอก มันเกินมือของ นายกฯ นายหญิงน้อย แพทองธาร ชินวัตร ที่จะบริหารจัดการได้
จึงเกิดกระแสว่าอาจมีการหักดิบ
แม้นายกฯ อิ๊งค์ จะยังไม่อยากให้เกิดแรงกระเพื่อม จากการปรับครม.
แต่ล่าสุดมีแรงกดดันภายในเพื่อไทย ที่ต้องการให้ปรับ
อันดับแรกคือการโยกสลับกระทรวง ดึงมหาดไทยกลับคืนมา
แต่แน่ๆ คือ จะไม่ยอมเอากระทรวงคมนาคม อีกกระทรวงเกรด A+++ ไปแลก
งานนี้ยอมได้ก็ยอม ยอมไม่ได้ก็ออกไป อะไรจะเกิดก็เกิด
คลื่นความถี่สูงปรี๊ดส่งมาจากวงใน
มีหรือที่คนอย่าง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล
และ “จารย์ใหญ่เน” เนวิน ชิดชอบ หุ้นส่วนร่วมค่ายสีน้ำเงิน จะอ่านสัญญาณนี้ไม่ออก
ก็ขนาดคนวงนอกพวกนักวิเคราะห์ทั้งหลาย ยังได้สัญญาณนี้มาเป็นปีๆ
ภูมิใจไทยก็เตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้เหมือนกัน
“เสี่ยหนู” อนุทิน ออกตัวมาก่อนเลยเรื่องการจับมือกับค่ายส้ม
“กับ สส. พรรคประชาชน วันนี้ทักกันเยอะขึ้น มีรอยยิ้มให้กันมากขึ้น
แต่ทุกคนก็ทำหน้าที่ ในส่วนมิตรภาพมีให้กันได้”
แล้วในอนาคตจะมีแนวทางการทำงานร่วมกันหรือไม่
“วันนี้ต้องเลิกพูดว่าพรรคนั้นจับกับพรรคนี้ หรือพรรคนั้นจับกับพรรคโน้นไม่ได้
สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้สามารถสรุปได้ว่า ไม่มีพรรคอะไรจับมือกับพรรคอะไรไม่ได้
แต่เมื่อมีความเห็นหรือนโยบายที่ไม่ตรงกัน
หรือนโยบายที่อีกฝ่ายรับไม่ได้ในขณะนั้น ก็อย่าเพิ่งจับกัน”
“แต่ในอนาคตข้างหน้านโยบายต่างคนต่างรับได้ ต่างคนต่างพยายามหาสิ่งที่ทำได้
แล้วเกิดประโยชน์กับประเทศ และประชาชน และขับเคลื่อนไปด้วยกันได้
ก็ไม่ควรมีข้อจำกัดอะไรขึ้นมา”
ชัดมะ… ไม่ต้องฟังอีกครั้ง
แปลไทยเป็นไทย ในอนาคตอะไรก็เกิดขึ้นได้
อยู่ที่ผลประโยชน์ ณ จุดนั้น มันลงตัว
แต่วันนี้ขั้วน้ำเงิน ต้องเร่งจัดวางขุมข่าย
สยายปีกให้ครอบคลุมไปทุกองคาพยพ ตั้งแต่สภาล่าง สภาบน
รวมไปถึงองค์กรอิสระทั้งหลาย
ล่าสุดก๊วน สว. น้ำเงิน ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
ลาก 125 เสียง เดินหน้าโหวตองค์กรอิสระ
ไม่สนใจแม้จะมีคนร้อง หรือทักท้วงให้ชะลอออกไปก่อน
เพราะคดีฮั้วเลือก สว. กำลังใกล้งวดเต็มที
ล่าสุดมี “คลิปสหายแสง” โผล่ว่อนโซเชียล
พูดจาชัดเจนสนับสนุนบุคคลเข้ามาเป็น สว.
ในเมื่อ อ้อยเข้าปากช้างเขากระโดง ไปแล้ว
ต่อให้เทวดาหน้าไหนก็ดึงออกไม่ได้
เพราะมั่นใจในอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชของลมใต้ปีก ที่คอยถือหางอยู่
แม้จะเพิ่มความกระดำกระด่าง รืองัด ม.157 ขึ้นมาขู่ ก็เอาไม่อยู่
เพราะนี่จะเป็นฐานอำนาจในอนาคตของขั้วน้ำเงิน
ที่ลอกการบ้าน “นายใหญ่” มาแบบเป๊ะๆ
สถาปนาการเมืองการปกครอง ระบอบ “หนู-เน” ขึ้นมาแทน “ระบอบทักษิณ”
วัดกันซักตั้งระหว่าง “ดีลพิเศษ” กับ “ดีลวิเศษ”

-กระดูกเหล็ก-