สมการรัฐบาล “อิ๊งค์ 2”

ใกล้จะแตกหักเข้าไปทุกที หลังเล่นบทตบจูบกันมานาน

จับสัญญาณหลัง “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ดอดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า จับเข่าคุยกับ นายกฯอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร เป็นการส่วนตัว หน้าดำคร่ำเครียด

ก่อน “เสี่ยหนู” จะลงมาปั้นหน้าให้ข่าวอย่างมั่นใจ เก้าอี้ทองฝังเพชรตัวนี้ ยังอยู่ในมือภูมิใจไทย ถ้าไม่ใช่ ก็พร้อมถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล

นั่นคือดอกแรก ที่ภูมิใจไทยภายใต้การบัญชาของ “หนู-เน” โยนแรงกดดันกลับไปให้ นายกฯแพทองธาร ผู้ถืออำนาจในการปรับครม.ตามกฎหมาย และอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ผู้ถือดุลอำนาจตัวจริงของรัฐบาล

เป็นช่วงวัดพลังวัดใจกันระหว่าง ขั้วแดงกับขั้วน้ำเงิน

ที่ “อนุทิน-เนวิน” ประเมินแล้วว่าต้องเล่นขี่คอ“นายใหญ่” โดยยกเอาข้อตกลงตอนเจรจาจัดตั้งรัฐบาล มาสร้างภาพให้ดูว่า“เป็นผู้ถูกกระทำ” แต่ถ้า อนุทิน และเนวิน จะย้อนไปดูพฤติกรรมของตัวเอง ก็จะเห็นว่า คนที่เริ่มเบี้ยวปฏิญญาช็อคมิ้นต์ก่อน ก็คือภูมิใจไทย

นโยบายเรือธงที่รัฐบาลพยายามเข็นออกมา ไม่ว่าจะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ, ออกกฎหมายนิรโทษกรรม, เงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ล้วนถูกสกัดขัดขวางให้ไปต่อไม่ได้

จน “นายใหญ่” ควันออกหู ประกาศเวนคืนกระทรวงเกรดเอ+++ มหาดไทย ที่มีทั้งเงิน ทั้งกล่อง แถมยังมีอำนาจดูแลจัดการเลือกตั้งอีก

สัจจะไม่มีในหมู่โจรฉันท์ใด ก็ไม่มีในหมู่นักการเมืองฉันท์นั้น

การแตกหักรอบนี้จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น บทสนทนาบนตึกไทยฯวันนั้น ต่างฝ่ายต่างเครียด เพราะเป็นวาระแจ้งเพื่อทราบ ไม่ใช่การเจรจาต่อรอง ขอเวนคืนกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น

ยื่นหมูยื่นแมวให้ภูมิใจไทย ไปดูกระทรวงสาธารณสุข พ่วงเก้าอี้รมต.ประจำสำนักนายกฯ อีก 1 ตำแหน่ง และจะขอคำตอบภายใน 48 ชั่วโมง หรือภายในเวลา 15.00น. ของวันที่ 19 มิ.ย.นี้

“เสี่ยหนู”อนุทิน โต้กลับทันควัน ไม่รับเดดไลน์ ย้ำชัดๆอีกรอบ ถ้าเอามหาดไทยคืนไป ก็ออกไปเป็นฝ่ายค้าน

ด้วยความมั่นใจในสัญญาณลมบน ที่ช่วงหลังมานี้ออกหน้าแสดงตัวชัดเจน ว่าคอยเป็นลมใต้ปีกให้ขั้วน้ำเงิน ถ้าจะต้องแตกหักไปเป็นฝ่ายค้าน ก็เป็นไม่นาน เพราะเชื่อว่ารัฐบาลจะลากไปได้ไม่ถึง 2 ปีตามวาระที่เหลือ ด้วยคดีความที่ร้อยหลังเพื่อไทย และฝ่ายการเมืองตรงข้าม

“หนู-เน” พกความมั่นมาเต็มกระเป๋า ในกลุ่มอำนาจนำขั้วอนุรักษ์ ที่หันมาถือหางเต็มตัว

แม้อดีตนายกฯทักษิณ ต้องคิดหนัก เพราะวันนี้ถูกบีบจนหนทางตีบตัน ยังคงส่งสัญญาณพร้อมแตกหัก เขี่ยภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้าน

บวกลบคูณหารดูแล้ว ต่อให้ตัด 69 เสียงของภูมิใจไทยออกจากสมการร่วมรัฐบาล ก็ยังมีเสียงพอจะประคับประคองรัฐบาลผลักดันวาระสำคัญที่วางไว้ต่อไปได้

ด้วยสูตรสมการรัฐบาล “อิ๊งค์ 2” 270 เสียง

จากปัจจุบันเป็นรัฐบาล 11 พรรค มีอยู่ 324 เสียง หากตัดภูมิใจไทยออกไป 69 เสียง เหลือ 10 พรรค ก็ยังเหลือเสียงในมือ 255 เสียง เป็น เพื่อไทย 142 รวมไทยสร้างชาติ 36 กล้าธรรม 26 ประชาธิปัตย์ 25 ชาติไทยพัฒนา 10 ประชาชาติ 10 ชาติพัฒนา 3 ไทยรวมพลัง 2 เสรีรวมไทย กับประชาธิปไตยใหม่ อีกพรรคละ 1

ด้วยสภาวะเสียงปริ่มน้ำเกินครึ่งมาฉิวเฉียด ก็ต้องเติมเต็มเป้าหมาย 270 เสียง ด้วยการเปิดหัวดูด โฟกัสไปที่สส.ฝ่ายค้าน ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มบ้านใหญ่เมืองมะขามหวาน ของ สันติ พร้อมพัฒน์

ที่แม้จะเปิดหน้าโชว์ตัวร่วมวงข้าวกับ เนวิน-อนุทิน-ชาดา แต่ในสมการอำนาจไม่มีอะไรแน่นอน ด้วย “สันติสไตล์” พลิกได้เสมอ

ที่จะกลายเป็นปมร้อนต่อไป เมื่อ “8 ที่นั่ง” ของภูมิไทยว่างลง พรรคร่วมอื่นก็ต้องเปิดศึกเขย่าเกลี่ยโควตากันใหม่

ถึงตอนนั้น คงวุ่นวายขายปลาช่อนดีพิลึก

นายกฯอิ๊งค์ ยอมรับ คลิปเสียงคุยฮุนเซนของจริง ย้ำเป็นแค่เทคนิคเจรจา

รวมไทยสร้างชาติกับแผนสองชั้น ดัน “พีระพันธุ์” นั่งนายกฯ