เด้งเชือก ชิ่งหนี“มุมอับอำนาจ” ที่กำลังถูกไล่ต้อน
กระดานเกมของ “นายใหญ่” ใช่ว่าจะหมดหนทางสู้ไปซะทีเดียว อย่างน้อยยังมีอีกหลายช่องทางให้ยื้ออำนาจเอาไว้ได้ต่อ สไตล์มวยไฟต์เตอร์อย่าง อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ถ้าไม่โดนจังๆ โป้งเดียวจอด ไม่มีโยนผ้ารับความปราชัยกันง่ายๆ
ได้ฤกษ์ออกจากถ้ำ“จันทร์ส่องหล้า” ขยับคิวอีเวนต์โชว์ ส่งสัญญาณดิ้นสู้ฟัดชัดเจน สวนทางกับข้อวิจารณ์จ่อถอยกรูด จะให้ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว ไขก๊อกจากเก้าอี้ผู้นำ เลี่ยงปมร้อนให้ศาลรัฐธรรมนูญจำหน่ายคดี “ปมจริยธรรม-ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” เพื่อไม่ต้องมีชนักติดตัว
ยังไงก็ต้องให้ลูกสาวยื้อจนยกสุดท้าย เพราะอีกมุม หากชิ่งลาออกก็ไม่ต่างจากยอมรับผิด ไม่แก้ต่างแก้ตัว ที่สำคัญในห้วงที่สัญญาณความถี่สูงยังไม่ชัด ให้อยู่–ให้ไป ตั๋วสัญญาการงาน
ใบอนุญาตยังไม่ได้หมดอายุ แม้สัญญาณอาจแกว่งเพราะมีคลื่นแทรกซ้อน ฝ่ายตรงข้ามมีช่องเป่าหู ปั่นเกม “ฉีกตั๋ว”
ออก 2 อีเวนต์ใหญ่ใน 1 วัน ติดๆ กัน คอการเมืองต้องมอง “ฉากทัศน์บ้านเมือง” ที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ฉายเรียกน้ำย่อยกันรอบบ่าย บนเวทีโชว์วิสัยทัศน์ “Crafting the Future: From OTOP to ThaiWORKS and Beyond“ ภายในงาน SPLASH – soft power forum 2025
ตอกย้ำถึงอุปสรรคปัญหาที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ต้องเจอเกมขัดแข้งขัดขาจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ในขณะควบคุมสั่งการกระทรวงมหาดไทย ทำให้การผลักดันนโยบายล้มเหลว
และยังถือเป็นการเปิดหน้าโชว์ตัวต่อสื่อเป็นครั้งแรก หลังเกิดกรณีเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด“ลูกสาว” เซ่น “คลิปมรณะ” ของ“อังเคิลฮุน เซน”
ต่อด้วยช่วงค่ำ แถลงเปิดใจต่อสื่อ แบบ Exclusive Talk ที่จัดโดยสำนักข่าวแห่งหนึ่ง “ผ่าทางตันประเทศไทย”
โผล่โชว์ของในฐานะ “คุณพ่อผู้ครอบครอง” ของ“นายกฯลูกสาว” ในห้วงที่รัฐบาลของลูกสาวกำลังเผชิญชะตากรรมจากบรรดาขาประจำ-ฝ่ายแค้น
อดีตนายกฯทักษิณ ย้ำโชว์วิธี“ผ่าทางตัน” ทุกปัญหาของรัฐบาลแพทองธาร แก้ได้หมด ทั้งวิกฤติอำนาจ วิกฤติการบริหารในทุกมิติ วิกฤติเศรษฐกิจปากท้อง สังคม รวมไปถึงด้านความมั่นคง
ประกาศปลดล็อกจากผู้นำหลังม่าน มาสู่สถานะ“ผู้นำคู่ขนาน” ตอกย้ำฉายา สทร. และนับจากนี้ก็จะขอ “เผือกทุกเรื่อง” เพื่อประเทศ
ปมแรกกับอดีตคนเคยคบ(เป็นเพื่อน) “ฮุน เซน” อดีตนายกฯทักษิณ ประกาศเลิกนับญาติ ถือพี่ถือน้องกันอีกต่อไป ส่วนวิธีแก้ปัญหาอยู่ที่ความอึด อดทนเหมือนดำน้ำ“ใครจะอึดกว่ากัน”
ส่วนไฮไลต์จริงๆ คือแนวคิดวิธีแก้ปมการเมือง อดีตนายกฯทักษิณ ย้ำหลายรอบว่า “ยังไม่ถึงทางตัน” ยังมี 3 ทางเลือก “ไปต่อ–เปลี่ยนผู้นำ–ยุบสภา”
บทวิเคราะห์กึ่งโชว์แผนหลังคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าผลคำวินิจฉัยออกมาว่า นายกฯแพทองธาร ไม่ผิดก็บริหารบ้านเมืองต่อ แต่ถ้าออกมาเป็นลบโดนโทษ ก็เปลี่ยนตัวเป็น “ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตนายกฯอีกคนของพรรคเพื่อไทย
หรือถ้าไปไม่ไหวจริงๆ ก็ “ยุบสภา” ดาบอาญาสิทธิ์ในมือไม้สุดท้าย
การฉายภาพบนเวที Exclusive Talk เป็นความพยายามสื่อสารไปยังเครือข่ายอำนาจต่างๆ ว่า “ไม่ใช่คนอันตราย” และพร้อมทำงานกับทุกฝ่ายเพื่อประโยชน์ของประเทศ โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
นี่คือหน้าฉากที่พอจะหยิบยกแผนการมาเล่าได้ หลังฉากยังมีอีกหลายตัวแปร ไพ่ลับ-ท่าไม้ตาย ไม่มีแพลมไต๋อยู่แล้ว ที่พอจะแพลมๆออกมาก็ กลุ่มเครือข่ายอำนาจ-เศรษฐกิจระดับโลก ที่ไปต่อสายไว้ในยามที่ต้องระเหเร่ร่อนตอนอยู่ต่างแดน
เพราะถ้าจะนับหัวผู้นำ หรืออดีตผู้นำของไทย ที่จะมีสายใยเชื่อมโยงเครือข่ายผลประโยชน์เหล่านี้ ยังหาตัวจับกับ อดีตนายกฯทักษิณ ได้ยากจริงๆ
กองเชียร์ได้ฟังการแสดงวิสัยทัศน์ “ผ่าทางตัน” ครั้งนี้ ก็คงอดเคลิ้มตามไม่ได้
แต่ปัจจัยหลักมันอยู่ที่ “ผู้ให้ตั๋ว” จะเคลิ้มตามหรือไม่
โดยเฉพาะกับพิษภาษี “คาวบอยเฒ่า”โดนัลด์ ทรัมป์ จอมแสบ บวกกับวิกฤติการเมืองโลก-เศรษฐกิจโลก ที่ยังไม่รู้ว่าจะดึงความเชื่อมั่นใจความเป็น “รัฐบาลดีเอ็นเอทักษิณ” มืออาชีพด้านเศรษฐกิจ กลับมาได้เมื่อไหร่
ยังมีความขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน รวมถึงปัญหาภายในที่รุมเร้า ที่รอเผชิญ
ล้วนแต่เป็นโจทย์ใหญ่ๆ ที่ชี้ว่าจะได้ “ตั๋วไปต่อ” หรือไม่..?
