พายุฝนกระหน่ำหลายพื้นที่ประเทศไทย สวนทางบรรยากาศร้อนระอุด้านความมั่นคง แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไต่ระดับความคุกรุ่น หลังทหารไทยถูกเล่ห์ทหารเขมร เหยียบกับระเบิดขาขาด 1 นาย  
ปลุกอารมณ์ร่วมบานปลาย ไปถึงปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ พื้นที่ข้อพิพาท 2 ประเทศ เสี่ยงการเผชิญหน้ายั่วยุจากประชาชนและทหารมากขึ้น ไม่ต่างจากความตึงเครียดทางการ เมืองที่ทวีความร้อนแรงไม่แพ้กัน

ในภาวะที่การเมืองไทยไร้เสถียรภาพ กึ่งสุญญากาศ “นายกฯอิ๊งค์”แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ติดบ่วงนิติสงครามถูกศาลรัฐธรรมนูญพักงาน ปมคลิปเสียงสนทนาสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาต้องลุ้นตัวโก่งจะหลุดเก้าอี้ผู้นำหรือไม่

ไฟเตือนสัญญาณล่อแหลมกะพริบรัวๆ ระดับที่คนคุมเกมการเมืองประเทศไทยอย่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก รัฐมนตรี ต้องทำใจรับสภาพ ปัญหาการเมืองหนักหน่วงกว่าเรื่องเศรษฐกิจ ไม่สามารถควบคุมทิศทางประเทศให้เป็นไปตามความต้องการได้

เดอะแบกก็ยังไม่รู้จะลากลูกสาวนั่งเก้าอี้ผู้นำต่อไปได้อีกกี่น้ำ เพราะแม้แต่คนเป็นพ่อเองก็ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง จะรอดด่านนิติสงครามได้หรือไม่

ตามไทม์ไลน์ระทึก การตัดสินคดี2พ่อลูก ที่งวดเข้ามาตามลำดับ น่าจะได้ข้อยุติในเดือนส.ค.นี้
ฝ่ายพ่อลุ้นหนักคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 22ส.ค.นี้ ภายหลังศาลสอบปากคำพยานทุกฝ่ายเสร็จสิ้นแล้ว

ขณะที่คดีป่วยทิพย์ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใกล้ปิดจ๊อบ นัดไต่สวนพยานปากสุดท้ายวันที่ 30ก.ค.นี้ น่าจะมีคำพิพากษาออกมาในเดือนส.ค.เช่นกัน
ด้าน“นายกฯอิ๊งค์”ก็ลุ้นคดีคลิปอังเคิลที่งวดเข้ามาเรื่อยๆศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานปากสุดท้าย วันที่ 30ก.ค. คาดการณ์คงมีคำวินิจฉัยตัดสินในเดือนหน้าเช่นกัน ได้ใจหายใจคว่ำ จะได้ถือตั๋วอำนาจต่อหรือไม่
อาการร่อแร่ไม่ต่างกัน พ่อลุ้นหลุดคุก ลูกลุ้นเกาะเก้าอี้ต่อ ต้องจับตาใกล้ชิด 3 คดีใหญ่การเมืองจะเป็นตัวแปรพลิกโฉมการขับเคลื่อนประเทศไทยหรือไม่

กลไกนิติสงครามล้อมกรอบตัวละครการเมืองไทย แม้กระทั่งนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานผู้แทนราษฎร ก็หายใจไม่ทั่วท้อง ศาลรัฐธรรมนูญนัดตัดสินคดีกระทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ล่นแร่แปรธาตุ แปรงบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ไปลงพื้นที่ตัวเอง

หรือแม้แต่พรรคภูมิใจไทยก็มีชนักปักหลัง ถูกกล่าวหาร่วมขบวนคดีฮั้วเลือกสว. คดีถูกตั้งแท่นจ่อส่งเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ชี้ขาด มี 138สว.ติดบ่วง รวมถึงระดับบอสสูงสุด หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค ตลอดจนเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการ เบ็ดเสร็จติดร่างแหรวม 229ราย ไม่รู้จะลามไปถึงการยุบพรรคหรือไม่

หนำซ้ำยังถูกไล่ล่าคดีเขากระโดง คดีงบกระตุ้นเศรษฐกิจกระจุกตัวเฉพาะโซนพื้นที่สีน้ำเงิน เกมเช็กบิลภูมิใจไทยก็ถูกเหยียบคันเร่งมิด

แม้แต่พรรคคะแนนนิยมสูงสุดอย่างพรรคประชาชน ก็เสียวสันหลัง คดีอดีต 44สส.พรรคก้าวไกลผิดจริยธรรมร้ายแรง เสนอแก้ไขกฎหมาย มาตรา112 เสี่ยงนำไปสู่การยุบพรรค  

พรรคแกนนำฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน เลือดโชก บาดแผลเต็มตัว ไม่รู้จะถูกล้างกระดานหรือไม่
ขณะที่เหล่าแคดิเดตนายกฯที่อยู่ในบัญชีพรรคการเมือง ก็มีบาดแผลติดตัว เปิดทาง “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาอดีตนายกรัฐมนตรี คัมแบ็กเก้าอี้ผู้นำ หากเจรจาดีลอำนาจลงตัว

ตามผลโพลที่โยนหินถามทางกระแสสังคมก่อนหน้านี้ คำตอบที่ได้ก็ไม่รังเกียจ หากลุงคนเดิมจะกลับมาใหม่
สูตรพิเศษจัดอำนาจประเทศไทยถูกแง้มประตูกว้างขึ้น เตรียมพร้อมเป็นทางฉุกเฉิน ปลดล็อกทางตัน