“ทักษิณ”ก็คือ“ทักษิณ” อยู่ไม่สุข

แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทะลักจุดเดือด

เขมรห้าวเป้ง จุดไฟสงคราม งานนี้ ฮุน เซน “ละแวกขี้คลอก 2025” คุมทัพบัญชาการด้วยตัวเอง เปิดฉากยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ขนาด 122 มม. จากฐานเสบียงใน จ.พระวิหาร ตั้งแต่เช้ามืดของวันที่ 24 ก.ค.

ยิงปูพรมเข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนราษฎร โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน โดยไม่สนหลักการกฎหมายระหว่างประเทศ หรือการละเมิดสนธิสัญญาออตตาวา ในกรณีวางกับระเบิดชุดใหม่ ล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย

คร่าชีวิตราษฎรผู้บริสุทธิ์ของไทย ซึ่งในนั้นยังมีแด็กเล็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ รวมไปถึงกำลังพลทหารหาญของไทย ล้มตายนับสิบราย บาดเจ็บอีกหลายสิบ

ทางการไทยต้องสั่งอพยพประชาชนนับแสน ที่อยู่บริเวณแนวชายแดนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ ตั้งแต่ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ เข้ามาพักในศูนย์พักพิงที่ทางการเปิดไว้ เพื่อความปลอดภัย

แต่ อาชญากรสงคราม อย่าง ฮุน เซน ที่จิตใจต่ำตมตามภูมิรัฐศาสตร์ประเทศ “เขมรต่ำ” คงไม่รู้สึกรู้สา เพราะในอดีตก็เคยไล่ล่าเข่นฆ่าคนเขมรชาติเดียวกันมาแล้ว ในสมรภูมิเขมร 3 ฝ่าย

ก่อนหน้านี้ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุไทยมาโดยตลอด ก่อนจะมาเปิดฉากสงครามในรอบนี้ ด้วยรู้ทั้งรู้ว่าขีดกำลังรบ ศักยภาพทางกองทัพของตัวเอง ห่างกับไทยราวฟ้ากับเหว แต่ก็ยังพยายามจะทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำ ทั้งๆที่โลกไปไกลเกินกว่าจะมาทำ Propaganda โฆษณาชวนเชื่อแบบยุคเขมร 3 ฝ่าย

ต้องบอกว่างานนี้ กองทัพไทย โชว์ความเด็ดขาด ด้วยปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” (Operation “Yuttha Bodin”) ทั้งทางบกและอากาศ ตามความหมาย “ยุทธการแห่งการปกป้องแผ่นดินอย่างถึงที่สุด” สะท้อนการตอบโต้ศัตรูที่บังอาจล่วงล้ำอธิปไตยไทย ด้วยยุทธวิธีที่เฉียบขาด และชอบธรรม

บดขยี้ทุกผู้ที่เหยียบย่ำแผ่นดินไทย “เพื่อแผ่นดิน เพื่อประชาชน เพื่อศักดิ์ศรีไทย”

โดยไม่มีอำนาจการเมืองมาคอยถ่วงตุ้ม วันนี้ฝ่ายบริหารรัฐบาลเพื่อไทย ว่าไงว่ากันตามกองทัพ ใช้การทหารนำการเมือง

ส่ง F-16 ขึ้นกำราบดับซ่า วันแรกล่อไป 3 รอบ เสิร์ฟไข่ให้เขมรกินกันแบบจุกๆ

เพราะงานนี้ต้องกดให้หมอบ แล้วค่อยเจรจา

แต่การเมืองก็คือการเมือง ขณะที่แนวรบตลอดแนวชายแดน ยังคงปฏิบัติการเข้มข้น พรรคการเมืองแต่ละพรรค ก็ไม่มีใครยอมใคร หวังแค่กอบโกยตุนแต้ม ก็แค่นั้น…

โดยเฉพาะ ภูมิใจไทย โชว์ภาพความเป็นพรรคพื้นที่อีสานใต้ นำโดย “ครูใหญ่”เนวิน ชิดชอบ เปิดสนามช้างอารีน่า ให้ประชาชนที่ต้องหลาบภัยการสู้รบ เข้าพักอาศัย

กะจะโชว์เหนือพรรคแกนนำรัฐบาลไปหนึ่งช่วงตัว เพราะช่วงนี้อยู่ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ที่มีศึกช้างชนช้าง เพื่อไทย-ภูมิใจไทย กันอยู่

ช่วงขลุกขลิกอย่างนี้ก็ยังจะเอา

ซึ่งไม่มีใครยอมใครแน่ แม้การเลือกตั้งซ่อมรอบนี้ ไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่า สส.ใหม่ จะได้อยู่ในวาระถึงเดือนหรือไม่

แต่มันเป็นขวัญกำลังใจในศึกเลือกตั้งใหญ่ ที่จะมาถึงแน่นอน

สภาพรัฐบาลตอนนี้ มีก็เหมือนไม่มี การบริหารราชการแผ่นดิน การบริหารอำนาจ สารพัดคดีความ ที่พร้อมจะสอยมะม่วงจำบ่ม นายกฯแพทองธาร ชินวัตร ให้ร่วงได้ทุกเมื่อ

ทำได้แค่ประคอง เอาตัวรอดไปวันๆ

และปฏิกิริยาเร่ง อย่างไฟสงครามไทย-กัมพูชา จะเป็นอีกตัวแปรชี้เป็นชี้ตาย รัฐบาลแพทองธาร

“ทักษิณ” ก็คือ “ทักษิณ” ที่อยู่ไม่สุข ท่ามกลางอารมณ์ที่ยังคุกรุ่นของคนไทย ก็มีกระแสข่าวสะพัดว่า “นายใหญ่เพื่อไทย” ใช้สถานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ประสาน-ล็อบบี้ อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน คุยผ่าน ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ ไปเจรจากับกองทัพ

ภูมิธรรม ยอมรับว่า อันวาร์ อิบราฮิม ติดต่อโทรศัพท์มาหา อาสาเป็นตัวกลางเจรจาให้ไทย-กัมพูชา หยุดปฏิบัติการทางทหารตามแนวชายแดน

แต่ก็ต้องรอดูท่าทีจากฝ่ายกองทัพก่อน เพราะงานนี้มีทั้งทหาร ประชาชนเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย รวมถึงกังวลว่าจะถูกฝ่ายกัมพูชาตลบหลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลต่ออธิปไตยของไทย

งานนี้ถ้า ทักษิณ ไม่สงวนท่าทีให้ดี อาจเป็นจุดแห่งความล่มสลายของ ขั้วอำนาจตระกูลชิน ได้เลย

อย่าลืมว่า ตัวเองคือตัวต้นเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ ฮุน เซน เหิมเกริมได้ขนาดนี้

หุ้นไทยเช้าเปิดลบ 5.31 จุด นักลงทุนกังวลเหตุขัดแย้งชายแดนกัมพูชา

ชายแดนระอุ! บ้านกรวดบุรีรัมย์อพยพเกือบ 100% หลังระเบิดลงกว่า 70 ลูก