แสงส่องทางสันติภาพยังขมุกขมัว
คล้อยหลังสัญญาหยุดยิง 13 ข้อ ไทย-กัมพูชา ไม่กี่วัน ทหารไทยโดนกับระเบิดเขมรขาขาดเพิ่มอีกราย ที่บ้านโดนเอาว์ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นทหารรายที่4ที่เหยียบกับระเบิดาขาดในรอบ 1เดือน
แนวโน้มสงบศึกไม่มีอยู่จริง แม้ 2 ฝ่ายจะลงนามหยุดยิงการใช้อาวุธในพื้นที่ชายแดน แต่เขมรยังแฝงเล่ห์ ซ่อนรูปลอบกัดทหารไทย เล่นงานทั้งวางกับระเบิด หรือแม้กระทั่งยิงหนังสติ๊ก ตอดเล็กตอดน้อยยั่วฝ่ายไทยทุกรูปแบบ
ขณะที่คู่พ่อลูกเจ้าเล่ห์ “ฮุน เซน-ฮุน มาเนต” ผู้นำกัมพูชา ยังตลบตะแลงลวงโลกรายวัน ให้ร้ายกองทัพไทยต่อเนื่อง ไม่จริงจังแก้ปัญหาโดยสันติวิธี
แม้แนวรบชายแดนจะพักรบตามสัญญาสงบศึก แต่ทหารไทยยังต้องตรึงกำลัง คุมเข้มชายแดนใกล้ชิดจนกว่าสถานการณ์จะนิ่ง กลับสู่ภาวะปกติ เฝ้าต้องระวังลูกตุกติกกองทัพพระยาละแวก ฉวยจังหวะช่วงหยุดยิง ตลบหลังแว้งกัด
กลไกแก้ข้อพิพาทยังไม่มีความจริงใจจากกัมพูชา รูปการณ์มีโอกาสหักเหจากการพักรบเป็นพร้อมรบได้ตลอด

ศึกนอกประเทศ รัฐบาลและกองทัพยังต้องเฝ้าระวังเขมรแว้งกัด ขณะที่ศึกในประเทศ รัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์”แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่แม้อยู่ในช่วงถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งพักงานแต่ก็เร่งสร้างแต้มต่อให้อยู่เหนือศัตรูทางการเมือง
อย่างที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กำลังไล่เช็กบิลอาณาจักรเขากระโดง สั่งกรมที่ดินทวงคืนสนามแข่งรถ สนามฟุตบอล ขุมทรัพย์ใจกลางเมืองบุรีรัมย์ และที่ดินชายขอบกลับมาเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)
ควบคู่ไปกับการสั่งเด้งระนาวบิ๊กข้าราชการสายสีน้ำเงิน ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดี กระทรวงมหาดไทย ถูกเก็บเข้ากรุ
เพื่อไทยปูพรมหนัก บั่นทอนพลังอำนาจพรรคภูมิใจไทยจนเสียศูนย์
ล่าสุดก็เร่งเครื่องสอย 136 สว.สีน้ำเงิน ยืมมือสว.กลุ่มอิสระยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เร่งพิจารณาถอดถอนยกรัง คดีฮั้วเลือกสว. ลุยถอนรากถอนโคนห้ขยายผลเอาผิดไปถึงผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย และครูใหญ่บุรีรัมย์ ผู้ครองอำนาจตัวจริง
เพื่อไทยเร่งเครื่องพับสนามบุก ขณะที่ภูมิใจไทยได้แต่ตั้งรับ ตอบโต้ได้แค่เพียงขู่ฟ้องกลับคดีข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง สกัดแผนรุกคืบโค่นอำนาจอาณาจักรสีน้ำเงิน
ลูกทีมนายใหญ่ออกลูกขึงขังลุยยึดที่เขากระโดง พ่วงไปกับการเช็กบิลทีมองคาพยพภูมิใจไทย ทำลายล้างศัตรูตัวฉกาจทางการเมืองไปพร้อมๆกัน
ไฟต์บังคับแก้เกมสถานการณ์ความศรัทธาความเชื่อมั่นรัฐบาลร่อแร่ ต้องทวงคืนความศรัทธาด่วนจี๋ ทั้งการสั่งเด้ง ผวจ.อุบลราชธานี ที่ไม่สนองโจทย์การเร่งเบิกจ่ายงบช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบภัยสู้รบหรือกรณี มท.1 มอบนโยบายเร่งด่วนกวาดล้างยาเสพติดทั้งผู้ค้า ผู้เสพให้เสร็จสิ้นใน3เดือน
ตามหลักฐานคาตา ผลสำรวจความเห็นประชาชนนิด้าโพลระบุชัด คนไทยให้ความไว้ใจการทำงานของกองทัพมากกว่ารัฐบาลในห้วงสถานการณ์สู้รบแนวชายแดน สะท้อนสัญญาณความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลยังกู่ไม่กลับ
อาการก้นร้อนที่ลูกแถวค่ายเพื่อไทยพากันนั่งไม่ติด ต้องรีบแก้ตัวการทำงานของทหารกับรัฐบาลมีความสอดคล้องเป็นเนื้อเดียวกัน อ้างเป็นผลงานร่วมทุกฝ่ายในฐานะทีมไทยแลนด์
โร่เกาะขบวนกองทัพขอเคลมความ ชอบร่วมด้วย
เพื่อไทยเร่งทวงคืนความเชื่อมั่น ลบความทรงจำวิกฤติศรัทธาไฟสงครามไทย-กัมพูชาที่กระชากเรตติ้งรัฐบาลลงเหว
แต่ภายใต้สภาพการติดหล่มความเชื่อมั่นความศรัทธาของประชาชนดิ่งฮวบ การจะกอบกู้ความนิยมย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้นทุนความเชื่อถือใกล้หมดหน้าตัก