เข้าสู่ช่วง 9 วันอันตรายของ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร
21-29 สิงหาคมนี้ คดีคลิปเสียงอื้อฉาวระหว่าง นายกฯแพทองธาร กับ ฮุน เซน นายใหญ่เมืองเขมร อยู่ในขั้นตอนสุดท้าย เริ่มวันที่ 21 ส.ค. นายกฯแพทองธาร (ผู้ถูกร้อง) และ ฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช. (ในฐานะพยาน) ต้องขึ้นให้การตามที่ ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวนพยานบุคคล ที่ทั้งคู่ยืนยันก่อนหน้าจะเดินทางไปให้การเอง
จากนั้นต้องแถลงปิดคดีภายใน 27 ส.ค. และศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัย 29 ส.ค. เป็น 9 วันที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย อยู่กันไม่เป็นสุขแน่
ส่วนผลจะออกมาอย่างไร โปรดรอด้วยใจระทึก แต่ดูทรงและองค์ประกอบแล้ว รอดยาก…
ห้วง 2 เดือนที่ผ่านมา กับวิกฤติความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ถือเป็นสุญญากาศอำนาจ ที่สภาพรัฐบาลมีก็เหมือนไม่มี ดุลอำนาจเกือบทั้งหมดตกอยู่ในมือกองทัพ รัฐบาลเพื่อไทยเป็นแค่ตัวประกอบ ที่คอยรันงานรูทีนไปเท่านั้น
แต่ก่อนจะถึงวันพิพากษา ก็ต้องใช้อำนาจที่ยังมีอยู่ในมือน้อยนิด ชิงจังหวะปรับทัพรับศึกเลือกตั้งกันก่อน ล่าสุดที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบตามที่ กระทรวงมหาดไทย เสนอบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายอีกลอตใหญ่ รวม 25 ตำแหน่ง

หวยล็อกไปที่เก้าอี้อธิบดี และผู้ว่าราชการจังหวัด ในสายสีน้ำเงิน อาทิ สยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ไปเป็นผู้ว่าฯสมุทรปราการ ที่ถือว่าไม่เสียหายเท่าไหร่เพราะเป็นพื้นที่ เกรดเอ ++ โดยขยับ ศุภมิตร ชิณศรี ไปเป็นผู้ว่าฯนครสวรรค์ พร้อมกับดัน สุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯหนองบัวลำภู มาเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนแทน
ส่วนกลุ่มที่ถูกเด้งเข้ากรุ ได้แก่ จุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯบึงกาฬ ชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯตาก เป็นรองปลัดฯมหาดไทย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯอุบลราชธานี ณรงค์ เทพเสนา ผู้ว่าฯอำนาจเจริญ อังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าฯกระบี่ ชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ว่าฯอ่างทอง ปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่านครพนม กลุ่มนี้ต้องมานั่งตบยุงที่เก้าอี้ผู้ตรวจฯ
สำหรับกลุ่มที่ได้ขยับขึ้นชั้น ได้แก่ นริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯสมุทรสาคร ขึ้นชั้นเป็นผู้ว่าฯชลบุรี พื้นที่ เกรดเอ ++ อีกจังหวัด ดึง ทศพล เผื่อนอุดม ออกจากกรุผู้ตรวจฯ ขึ้นเป็นผู้ว่าฯเชียงใหม่ เอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน เป็นผู้ว่าฯปทุมธานี ศรัณย์ศักดิ์ ศรีเครือเนตร จากผู้ตรวจฯ เป็นผู้ว่าฯภูเก็ต
ดูรายชื่อกลุ่มที่ถูกเด้งเข้ากรุแล้ว ชัดเจนเป็น ก๊วนน้ำเงินเข้ม และหลายจังหวัดเป็นฐานบัญชาการตอนเลือกสว. จนมีส่วนเกี่ยวพันกับ คดีฮั้วเลือก สว. มาจนถึงตอนนี้
และยังไม่หมดแค่นี้ ยังจะมีตามมาอีกหลายลอต ตามเป้าหมาย ล้างบางขั้วน้ำเงิน
ลดทอนอำนาจเครือข่ายพรรคภูมิใจไทย ที่วางมือไม้เอาไว้ยุ่บยั่บ ลึกลงไปถึงระดับ นายอำเภอ
ถือเป็นระลอกที่ 3 กับปฏิบัติการล้างบางสีน้ำเงิน หลัง “สิงห์อ้วน”ภูมิธรรม เวชยชัย ขึ้นมากุมบังเหียนกระทรวงมหาดไทย
เกมอำนาจรอบนี้ ต่างฝ่ายต่างวางเดิมพันไว้สูง นอกจากสลายอำนาจในฝ่ายปกครองแล้ว กระทรวง และหน่วยงานอื่น คือคิวถัดไป
รวมไปถึงปฏิบัติการรุกคืบ ทวงคืนเขากระโดง ที่ดีเอสไอขยับเข้ามา ตั้งท่าจะรับเป็นคดีพิเศษ ยิ่งเท่ากับเร่งแรงขยี้กล่องดวงใจ “บ้านใหญ่ชิดชอบ” ตามกันมาติดๆกับ คดีฮั้วเลือก สว.
สุดท้าย นิติสงคราม คือตัวชี้ขาดเกมอำนาจการเมืองไทย
ด้วยสภาวะปัญหาที่ทั้งศึกใน ศึกนอก รุมล้อมกรอบประเทศ ปัญหาของบ้านเมืองที่ไหลไปไกล เกินมือของนักการเมือง จะแก้กันได้เอง
จึงไม่แปลกที่จะมีเสียงเร้าดังถี่ ๆ ขึ้น “หน่วยรบพิเศษชนชั้นนำไทย” ตั้งท่าจะจัด “ทีมพิเศษ” ขึ้นมาแทรกยาดำ อีกแล้วครับท่าน..!!
– ม้าสีหมอก