ลอกสูตรนายใหญ่ โมเดล “บุรีรัมย์จำกัด” รวบอำนาจ

ไม่เหนือความคาดหมายกับสูตรการแต่งทัพเผื่อ หากต้องเลือกตั้งไว กับการกวาดต้อนตระกูลการเมืองในลักษณะ “บ้านใหญ่” ของแต่ละหัวเมือง มาอยู่ภายใต้ชายคาพรรคภูมิใจไทย 

ประเมินคร่าวๆจากตัวเลขตรงกับยอดสส.ที่โหวตสนับสนุน “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนายกฯ ที่ 311 เสียง เมื่อหัก 140 กว่าเสียงของพรรคประชาชน บวกด้วยที่ไหลมาเพิ่มอีกหลังตั้งรัฐบาล 

แต้มในเครือข่ายสีน้ำเงินเบื้องต้นทะลุไป 170-180 เสียงเข้าไปแล้ว

อนุมานจากจำนวนสส. หากหลังเลือกตั้งจำนวนนี้ ได้เข้าสภาฯมาสัก 60-70 เปอร์เซ็นต์ ก็สรุปได้ว่า หมุดหมายสีน้ำเงินใกล้แค่เอื้อม กับการอัปเกรดเป็น “พรรคหลัก” หลังเล่นบท “ตัวแปร” มาหลายสมัย

ถึงเวลาผงาด ก็อยากครองอำนาจกันในทางยาวๆไป

แต่นั่นก็ไม่ได้ง่ายในเกมเฉพาะหน้า สำหรับเรื่องการพลิกเป็น “รัฐบาลเสียงข้างมาก” การหักเอ็มโอเอกับค่ายสีส้ม อาจจะยังยาก เพราะจากตัวเลข ก็ต้องหั่นแต้มจากพรรคเพื่อไทยมาอีก 40-50 เสียง และงานนี้นายหญิงผู้มีบารมี แกนนำค่ายสีแดง ต้องออกโรงหยุดเลือดไหลออกกันเต็มเหนี่ยว 

แต่เอาเป็นว่า นาทีนี้ก็มองได้ตามธรรมชาติของนักการเมือง ไม่อยากอยู่ข้างผู้แพ้ ยิ่งเมื่อต่างรับรู้กระแสที่ปล่อยออกมา จริงเท็จไม่รู้ แต่ที่แน่ภูมิใจไทยราศีจับ

เนื้อหอมกันยาวๆ เพราะทั้งที่ว่ามีแบ็กอัป “พลังพิเศษ” ระดับไม่ธรรมดา ชนิดถ้าเป็นกวยเตี๋ยว ชามนี้ “เส้นเยอะ” จนล้น เร้าความสนใจ

แต่แค่“แม่เหล็กสีน้ำเงิน”แรงดูดสูงไม่พอ สูตรการดึงดีล คิวนี้คงต้องมีการบริหารจัดการโดย“ครูใหญ่บุรีรัมย์”เนวิน ชิดชอบ เลือกเป้าหมายแบบยิงแล้วต้องหวังผลได้ เหมือนที่ผ่านมาหลังแยกตัวจากเพื่อไทย มาก่อตั้งพรรคเป็นของตัวเอง โดย“แพ็กบ้านใหญ่” และยิงกระสุนให้แม่น ได้ผลมาโดยตลอด

เพียงแต่รอบนี้จะ “ใหญ่ค้ำฟ้า”กว่านั้น ก็ต้องออกแรงเพิ่มอีกหลายเท่าตัว แล้วก็ต้องกวาดต้อนไม่เลือกทิศทาง เพื่อให้ถึงเป้าหมายเรื่องปริมาณจำนวน

แน่นอน สูตรบริหารจัดการอำนาจ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “เนวิน”เรียนรู้มาตลอดชีวิตการเมือง โดย เฉพาะกับ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ยุคยกระดับพรรคไทยรักไทยรุ่งเรืองเฟื่องฟูพีกสุดปี 2547-2548 

โดยในยุคนั้น นักการเมืองคนโตเมืองแปะ บุรีรัมย์ นอกจากเป็นหนึ่งในเหยื่อ เพราะอยู่พรรคชาติ ไทยมาก่อน ภายหลังได้ใกล้ชิดนายห้างทักษิณ เรียนรู้ทักษะฝีมือ กลเกมบริหารจัดการการเมือง

วันนี้เลยหยิบมาใช้หมด  ทั้งดีลจีบ ทาบทามพูดคุย ยื่นข้อเสนอ  มีตัวช่วยอะไรงัดมาใช้หมด กระทั่ง “อำนาจรัฐ“ จนป้อมค่าย บ้านเล็กบ้านใหญ่ยอมศิโรราบเรียบวุธ

จนหลังเลือกตั้งปี 2548 พรรคไทยรักไทยได้สส.ถล่มทลาย 377 ที่นั่ง จากทั้งหมด 500 ที่นั่ง คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ทะลุไปกว่า 18 ล้านเสียง ถีบประชาธิปัตย์จนต่ำร้อยแต้ม ไปเป็นฝ่ายค้าน

วันนี้ “เนวิน-อนุทิน”จะเดินตามสูตรสำเร็จ ลอกลายนายเก่าก็ไม่แปลก เพียงแต่อะไรๆที่คิดไว้ ก็อาจไม่เป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะมวยเวทีนี้ต่างก็รู้ทางกันดี เพื่อไทยก็ไม่ใช่หมู จะให้แย่งดุลอำนาจง่ายๆไม่มีทาง

แถมวันนี้ยังมีค่ายสด ใหม่ สีส้มพรรคประชาชน รอขี่กระแสมาเป็นตัวแปรในสมการ

จึงต้องติดตามศึกชิงอำนาจ ซีรีส์ศิษย์คิดล้างครู ปักดาบนั้นคืนสนอง กับเรื่องความเก๋าอดีตนายเก่า และกิจการการเมืองของเขา
จะมีบทจบเดือดเลือดสาดกันอย่างไร ในมินานนี้ได้รู้!

รมต.“สายล่อฟ้า” ครม.อนุทิน 1 เสี่ยงตาย อายุสั้นไม่ถึง 4 เดือน

ปิดด่านถาวร! ปานเทพ ฟาด กาสิโนเขมรรุกจันทรบุรี-ตราด แหล่งฟอกเงิน-ค้ามนุษย์ ชี้ภัยความมั่นคงของแท้