เติมกำลังใจก่อนเริ่มนับหนึ่งมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินเต็มรูปแบบ
ผลการเลือกตั้งซ่อมสส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ปักธงผู้แทนเพิ่มได้อีก 1 ที่นั่ง จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ผู้สมัครค่ายสีน้ำเงิน ล้มตัวแทนแชมป์เก่า พรรคเพื่อไทย ภูริกา สมหมาย ทำคะแนนทิ้งห่างเกือบ 9,000คะแนน
สัญญาณสะท้อนชัด พื้นที่ภาคอีสานที่เคยเป็นของตายพรรคเพื่อไทย คะแนนนิยมดิ่งเหว โดยเฉพาะโซนพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ความเชื่อมั่น ความศรัทธาจากประชาชนหล่นวูบอย่างหนัก
ต้นทุนคะแนนเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยที่เคยชนะเลือกตั้งปี 2566 จากเดิม 32,000 คะแนน เที่ยวนี้ร่วงไปเกือบหมื่นคะแนน ต่างจากพรรคภูมิใจไทยจากที่เคยมีแต้มบนหน้าตักรอบที่แล้ว 25,000 คะแนน รอบนี้ทะยานขึ้นมามีเกือบ 40,000 คะแนน
ภูมิใจไทยรุกคืบยึดผู้แทนพื้นที่ศรีสะเกษได้เกิน 50% สส.ปัจจุบัน รวมกับเลือกตั้งซ่อมล่าสุด มีสส. 3 คน บวกสส.งูเห่าพรรคเพื่อไทยอีก 2 คน รวมมีสส.ศรีสะเกษ 5คน จากจำนวนสส.ทั้งหมด 9 คน จากเดิมเมื่อปี2566 ที่มี สส.อยู่ในมือแค่ 2 คนเท่านั้น
แม้พรรคเพื่อไทยแพ้เลือกตั้งซ่อมสส.ศรีสะเกษ แค่เขตเดียว แต่เกิดความเสียหายหนักหน่วง กระทบไปถึงการเลือกตั้งใหญ่สมัยหน้า ขวัญกำลังใจ ความเชื่อมั่นสส.ระส่ำระส่ายหนัก อาจเกิดอาการแตกรัง วิ่งหาสังกัดใหม่ หนีไปตายเอาดาบหน้า ภายหลังคะแนนนิยมหลบเข้ากลีบเมฆ จากวิกฤติชายแดนไทย-กัมพูชา
พื้นที่โซนอีสานใต้พรรคเพื่อไทยกระเพื่อมหนัก สส.หลายคนเริ่มหาทางหนีทีไล่ อพยพหาพรรคใหม่ ขืนอยู่สังกัดเดิมมีโอกาสสอบตกสูง

อาณาจักรสีน้ำเงินหัวกระไดไม่แห้ง กลุ่มก๊วนต่างๆ บ้านเล็ก บ้านใหญ่จ่อตีจากระบอบ “ทักษิณ” ที่เคยยิ่งใหญ่ในภาคอีสาน วิ่งเข้าซูฮกกลุ่มอำนาจใหม่ ตามสัจธรรมการเมือง ใครๆก็อยากอยู่กับผู้ชนะ
ในภาวะที่พรรคภูมิใจไทยกำลังติดลมบน จากกระแสชาตินิยม มีแนวโน้มกวาดสส.อีสานใต้เป็นกอบเป็นกำในการเลือกตั้งใหญ่ช่วงต้นปีหน้า
ไม่ใช่แค่จ.ศรีสะเกษ ที่เสียขวัญ แต่อาจลามไปถึงจ.สุรินทร์ ที่เสี่ยงโดนกินรวบ เป็นพื้นที่สีน้ำเงินยกจังหวัด และเตรียมขยายอาณาเขตไปปักธงเพิ่มที่จ.ชัยภูมิ อุบลราชธานี
ยังไม่นับรวมจังหวัดของตายที่ภูมิใจไทยผูกขาดอย่าง จ.บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ
ลูกทีม “นายกฯหนู” ลู่ทางสดใสบนเส้นทางเลือกตั้งรอบหน้า คุมแต้มต่อกลไกอำนาจรัฐ กุมความได้เปรียบทางการเมืองไว้ในมือ
ไหนจะกระสุนที่ตุนไว้เต็มพิกัด กระแสก็กำลังขาขึ้น ระบบข้าราชการที่อยู่ในอาณัติ ทุกอย่างเป็นใจให้มีแต้มต่อเหนือพรรคคู่แข่ง
ในยามที่ผู้นำค่ายส้ม ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แต้มสะดุด ผลสำรวจนิด้าโพล แม้จะมีคะแนนนิยมมาเป็นที่ 1 แต่แต้มหดจาก 46% เหลือ33% ผลพวงจากด้อมส้มขุ่นเคืองที่เล่นบทฝ่ายค้ำช่วยพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาล สนับสนุน“เสี่ยหนู”นั่งเก้าอี้นายกฯ
ขณะที่กระแสพรรคเพื่อไทยยังกู่ไม่กลับ ชื่อแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขายต่อลำบาก โอกาสถือธงนำทัพในฐานะหัวหน้าพรรคยาก แต่ยังควานหาผู้นำพรรคคนใหม่ไม่เจอ ทำได้แค่ออกลูกดิสเครดิต ถล่มพรรคภูมิใจไทย-พรรคประชาชน ตัดแต้มคู่แข่งไปวันๆ ต้องหาทางกู้แต้มอลหม่าน
ตามไทม์ไลน์การเมืองที่จะยุบสภาช่วงปลายเดือน ม.ค.2569 น่าจะได้หย่อนบัตรเลือกตั้งช่วงเดือน มี.ค.ปีหน้า เหลือระยะเวลาอีกประมาณครึ่งปี กลายเป็นศึกวัดกระแสความนิยม ทุกพรรคต้องยืนระยะรักษาเรตติ้งให้ได้มากที่สุด จึงจะมีโอกาสชนะเลือกตั้ง
กระแสหน้างานที่ค่ายภูมิใจไทยดูนิ่งสุด ตรึงฐานเสียงพื้นที่สีน้ำเงินเหนียวแน่น และยังโชว์พลังดูดสส.เพิ่มเติมขึ้นเรื่อยๆ
อยู่ที่จะคว้าโอกาสทำงาน 4เดือน ต่อยอดไปสู่ 4ปี ได้หรือไม่