ถูกเป่ากระหม่อม ให้นั่งนายกฯต่ออีก 4 ปี
อารมณ์คึกคักฮึกเหิม “นายกฯหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้พรจากเจ้าของงานวันเกิด “ครูใหญ่บุรีรัมย์”เนวิน ชิดชอบ ผู้นำจิตวิญญาณพรรคภูมิใจไทย ผูกข้อมือเสริมกำลังใจ เชียร์ให้ชนะเลือกตั้งรอบหน้า ถือตั๋วผู้นำยาว
“บิ๊กอีเวนต์”งานวันเกิดผู้ทรงอิทธิพลการเมืองไทย วันที่ 4 ต.ค.2568 ครบรอบ 67 ปี ที่เหล่าแกนนำหลายค่ายการเมือง ครม. สส. ข้าราชการ นักธุรกิจ มุ่งหน้าสู่บุรีรัมย์ แห่มาซูฮกอวยพรล้นหลาม บ่งบอกอานุภาพอาณาจักรสีน้ำเงินช่วงขาขึ้น
เสริมพลังหนุน “นายกฯหนู” ขับเคลื่นประเทศช่วงเฉพาะกิจ 4เดือน ไฟต์บังคับให้เหยียบมิดคันเร่ง เร่งทำคะแนนที่เริ่มนับถอยหลัง 120 วัน ก่อนยุบสภาฯ
ล่าสุดเพิ่งแทรกคิวลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ตรวจสถานการณ์น้ำท่วม ต่อเนื่องจากโปรแกรมการติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่จ.สุรินทร์ และบุรีรัมย์
เดินสายล่าแต้มแก้ปัญหาประชาชน เก็บทุกชอตเล็ก ชอตน้อย สะสมเป็นต้นทุนเลือกตั้งสมัยหน้า

เร่งเครื่องคะแนนหน้าตักสำคัญอย่างโครงการคนละครึ่งพลัส เวอร์ชั่นภูมิใจไทย นำเข้าที่ประชุมครม. 7 ต.ค.นี้
ปัดฝุ่นโครงการคนละครึ่งยุค “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาประยุกต์ใหม่ เพิ่มวงเงินให้ใช้ต่อวันเป็น 200 บาท จากเดิม 150 บาท ให้สิทธิคนไทย 33 ล้านคน ช้อปปิ้งท้ายปี เดือน พ.ย.-ธ.ค. เปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการวันที่ 20-26 ต.ค.นี้
ประเดิมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด่วนจี๋ควักงบประมาณค้างท่อปี 2568 และงบรายจ่ายปี 2569 รวม 66,400 ล้านบาท มาเดินเครื่องโครงการ
ฟันแต้มจากทั้งคนมีรายได้น้อย พ่อค้าแม่ค้า คนชนกลาง ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สร้างภาพจำให้ประชาชนติดตาโครงการชูโรงรัฐบาล มัดจำคะแนนล่วงหน้า ช่วงใกล้ยุบสภา เดือนม.ค.2569
“นายกฯหนู”มือเป็นระวิง กู้เศรษฐกิจไทย คู่ไปกับการแก้ข้อพิพาทไทย-กัมพูชาที่สถานการณ์แนวชายแดนยังไม่น่าไว้วางใจ เสี่ยงปะทะรอบใหม่
แต่ยังพออุ่นใจที่รัฐบาล-กองทัพทำงานแนบแน่นลงตัวมากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา
“เสี่ยหนู”เล่นบทกองหนุนทหารปกปักอธิปไตยประเทศทุกทาง ทั้งการสร้างรั้วแนวชายแดน การปิดด่านชายแดน การทำประชามติล้มเอ็มโอยู 43-44 ไทย-กัมพูชา
โหมกระแสชาตินิยมรัวๆ ตุนแต้มเลือกตั้งแต่เนิ่นๆ
โจทย์คู่กู้ “เศรษฐกิจ-ความมั่นคง” เดิมพันอนาคตรัฐบาลภูมิใจไทย หากแก้ปัญหาลุล่วง ยุบสภาเมื่อใด ก็มีแต้มกองอยู่เต็มหน้าตัก ไม่ต้องรอครบ 4เดือน
ยกเว้นเจออุบัติเหตุการเมืองสอยร่วง ตามคิวแทรกที่น่าห่วงคือ การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา151
อย่างที่พรรคเพื่อไทยเตรียมขึ้นบัญชีดำรัฐมนตรีที่มีภาพลักษณ์ขมุกขมัว จ่อยื่นซักฟอกรัฐบาล“อนุทิน”ในการเปิดสมัยประชุมสภารอบใหม่ เดือนธ.ค.2568
ล็อกเป้ารัฐมนตรีสายล่อฟ้าที่ถูกพรรคเพื่อไทยขึงพืด อภิปรายปัญหาคุณสมบัติตอนแถลงนโยบายรัฐบาล หนีไม่แคล้วทั้ง “นายกฯหนู” -ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์-นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถูกจับขึ้นเขียงรอบใหม่
โยนความกดดันใส่พรรคประชาชนจะแสดงบทบาทอย่างไรในการซักฟอกรัฐบาล จะเล่นบทฝ่ายค้านตรวจสอบ หรือฝ่ายค้ำปกป้องรัฐบาล
เพราะลำพังค่ายเพื่อไทยแค่พรรคเดียวก็มีเสียงเพียงพอ 1 ใน 5 ของจำนวนสส. หรือ99เสียง สามารถยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ ไม่จำเป็นต้องพึ่งเสียงพรรคประชาชนร่วมยื่นญัตติสอบรัฐบาล
เพื่อไทยงัดเหลี่ยมเขี้ยว กดดันทัพส้มให้ร่วมตรวจสอบรัฐบาล กู้แต้มกลับให้ตัวเอง หลังพลาดพลั้งเสียความศรัทธาจากเหตุวิกฤติชายแดน
หากค่ายประชาชนออมมือ ไม่ขึงขังเล่นบทตรวจสอบรัฐบาลจริงจังก็เข้าเงี่ยงถูกตั้งข้อหาฝ่ายค้ำรัฐบาล อย่างที่พรรคเพื่อไทยบิ้วความรู้สึกด้อมส้มมาก่อนหน้านี้
ลูกเขี้ยวเพื่อไทยได้โอกาสฟื้นความเชื่อมั่นเพิ่มแต้มให้ตัวเอง และตัดคะแนนพรรคคู่แข่งไปในตัว