“ภูมิใจดูด” ที่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยอมรับหน้าชื่นตาบาน สุดจะภาคภูมิใจ
เพื่อเติมเต็มฝัน 4 + 4 ตามที่ “พี่เลิฟ” เนวิน ชิดชอบ ขาใหญ่เขากระโดง เป่ามนต์ขแมร์ ระหว่างพิธีปะกำช้างให้ “หนู น้องรัก” “เป็นนายกฯ อีก 4 ปี” ตามเกมอำนาจ “4 เดือนปูทาง – 4 ปีสืบต่ออำนาจ”
ตอนนี้ดูอะไรก็เป็นใจไปซะหมด คดีร้อนๆ เขากระโดง-ฮั้ว สว. แค่เป่าเพี้ยงงงง… เย็นลงทันใจ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความเนื้อหอม ค่ายสีน้ำเงินถือว่าหอมสุดๆ นักการเมืองบ้านเล็ก บ้านใหญ่ จะมีแสง ไม่มีแสงในตัว ประเภทนกแล ล้วนอยากจะมาซบตัก
กับเงื่อนเวลา 4 เดือนที่วางไว้ จะทำอะไรเลยต้องรีบทำ ล่าสุด “เสี่ยหนู” เพิ่งจะนำทีมเปิดตัว ก๊วนงูแมวเซา 3 ตระกูลการเมืองภาคอีสาน พงศกร อรรณนพพร อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พชรกร อรรณนพพร ลูกชาย ทวิรัฐ – ตติรัฐ รัตนเศรษฐ ลูกชาย วิรัช รัตนเศรษฐ อดีตอดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รวมไปถึงตระกูลปัทมะ ที่ นพดล ส่งน้องชาย โกศล มาก่อนแล้วจะตามมาทีหลัง
ตามมาด้วย ก๊วน-รทสช. เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการ รทสช. จุติ ไกรฤกษ์ นำลูกทีมมาแสดงเจตจำนง อาทิ อัครเดช วงพิทักษ์โรจน์, ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู, อนุชา บูรพชัยศรี เข้าสังกัดพรรคภูมิใจ
แล้วยังจะมีตามมาอีกหลายก๊วน เพราะ “เสี่ยหนู” บอกแล้วว่า “เราเปิดกว้าง ตัวผมเองอยู่ในสภา ถ้าสังเกตผมเดินไปทุกโต๊ะ เวลาเจอกันทักกันหลายท่านก็บอกว่า เดี๋ยวเที่ยวหน้ามาอยู่ด้วยนะ ชอบนโยบายพรรคภูมิใจไทย หัวหน้ามีที่ให้ไหม”

ขณะที่พรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ในสภาพใกล้อัสดง ก็คิกออฟแคมเปญ “ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย” ประกาศตั้ง “เดอะซัน” สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นแม่ทัพนำศึก ในตำแหน่ง ผอ.เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย
ส่องดูแล้ว สุริยะ น่าจะเป็นแม่เหล็ก ที่เหลืออยู่ไม่กี่คนในเพื่อไทยเวลานี้ ยืนขนาบข้าง “นายหญิงน้อย” เคียงคู่กับ “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล ที่ถือเป็นหัวจ่ายยามขัดสนของ “นายใหญ่-นายหญิง” ซึ่งหายหน้าหายตาไปจากสาระบบอำนาจพรรคเพื่อไทยไปนาน
ส่งสัญญาณว่าเพื่อไทยยังไม่ยอมศิโรราบ ให้กับเกมอำนาจที่ผู้คุมกฎวางไว้ และต้องการเช็กชื่อไพล่พลที่ยังหลงเหลือ หวังหยุดกระแสเลือดไหลในขณะนี้
วิสัยทัศน์ที่ “อุ๊งอิ๊งค์” นำเสนอ เป็นความพยายามดึงความมั่นใจของลูกพรรค ให้เชื่อมั่นว่า “ชินวัตร” ยังคงมุ่งมั่นจะกลับมาสู่กระดานอำนาจ อีกครั้ง ซึ่งภาพ-ข่าว คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มาพบปะให้กำลังใจสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่พรรคจงใจปล่อยต่อสื่อ ทั้งที่ที่ผ่านมาก็มีเข้ามาบ้าง แต่ปิดไม่ให้เป็นข่าว แต่คราวนี้ต้องเปิดหน้า เพื่อตอกย้ำความเป็นตัวจริงเสียงจริงของเพื่อไทย แถมบารมียังดูจะล้ำกว่าอดีตสามีอยู่เล็กน้อย
เป็นเครื่องยืนยันว่า “ชินวัตร” ยังต้องไปต่อ
อีกพรรคคือ กล้าธรรม ของ “ผู้กอง” ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เปิดตัวกลุ่มนักการเมืองรุ่นเก๋าอย่าง “กุ่ย” ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.หลายสมัยเมืองดอกบัว และเป็นอีกพรรคที่เป็นแหล่งระดมพลนักการเมือง เกรดเอ เกรดบี ไปจนถึงระดับ บีบวก มาไว้ในป้อมค่าย
ส่วนอีกพรรคที่ยังดูนิ่งๆ ก็ค่ายส้ม ต้องรอดูว่าหมาก “ดีลปีศาจ” กับขั้วสีน้ำเงินที่วางไว้ จะเป็นไปตามที่หวัง ส่งผลให้พรรคประชาชนชนะศึกเลือกตั้งอีกครั้งหรือไม่ เพราะลำพังแค่ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หรือ “ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล รวมถึงพลพรรคค่ายส้ม ที่เห็นหน้าเห็นตากันอยู่แค่นี้
บอกได้เลยไม่มีทางทำได้แบบเลือกตั้งปี 66 แน่นอน
เพราะการกลืนน้ำลายรอบนี้ ทำให้ “ด้อมส้ม” หมดศรัทธาไปเยอะ ดูง่ายๆ จากโพลรอบล่าสุด กลุ่มที่ระบุยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ ยังคงมาอันดับสอง แต่ดัชนีชี้วัดคือตัวเลข 21.64% มันพุ่งขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ความนิยมพรรคส้มก็ตกลงไปเล็กน้อย กลายเป็นภูมิใจไทย ที่กระดานหุ้นความนิยมดีดกันปึ๋งปั๋ง
แม้ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะชี้ได้ว่าพรรคที่จะชนะศึกเลือกตั้งรอบหน้าคือสีไหน แต่ที่เห็นๆ ตอนนี้ ชิงดำกันอยู่ 3 ก๊ก คือ ค่ายน้ำเงิน ค่ายแดง และค่ายส้ม โดยมีค่ายน้ำเงินออกเทา และค่ายสีฟ้า เป็นตัวสอดแทรก
ท่ามกลางกระแสความเบื่อหน่ายในตัวนักการเมือง ทำให้เอื้อต่อ ระบอบเซราะกราว การเมืองของบ้านใหญ่
ซึ่งเราคงพอจะมองเห็นแล้วว่า เกมอำนาจของรัฐพันลึก จะใช้เบี้ยตัวไหนเดินหมาก
คนการเมืองที่รู้ทั้งรู้ แต่ก็ยังเดินตามหมากที่เขาวางไว้