“วรภัค” ลาออกไม่จบ! สะเทือน “อนุทิน” ขัดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่

วรภัค ธันยาวงษ์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งรมช.คลัง หลังถูกเชื่อมโยงเครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์ ขณะที่ฝ่ายกฎหมายตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบของ นายกฯอนุทิน หากมีมูลความจริงอาจเข้าข่ายขัดจริยธรรมร้ายแรง

วรภัค ธันยาวงษ์ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 โดยให้เหตุผลว่า เพื่อไม่ให้เรื่องส่วนบุคคลกลายเป็นภาระหรือเงื่อนไขที่กระทบต่อการบริหารประเทศของรัฐบาล

มีข่าวว่าเขาและครอบครัวถูกเชื่อมโยงกับเครือข่าย “แก๊งสแกมเมอร์” หลอกลวงออนไลน์ และธุรกิจฟอกเงินในประเทศกัมพูชา โดยพบเอกสารจากสิงคโปร์ “84 หน้า” ที่ระบุว่า ภรรยาของวรภัคได้รับเงินคริปโต เช่น Tether จากกลุ่มดังกล่าว

รายงานเผยว่า มีเอกสารที่อ้างว่าเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 มีการซื้อ-ขายหุ้นในกองทุน Capital Asia Investments (CAI) ที่สิงคโปร์ โดยผู้ขายสองคน ได้แก่ น.ส. แคทรียา และ น.ส. กนกพร สีตะวรารัตน์ กนกพร ธันยาวงษ์ ภรรยาของวรภัค โดยแคทรียา ขายหุ้น มูลค่าประมาณ 21.15 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ ในรูปสกุลเงินดิจิทัล USDT

กนกพร ขายหุ้น จำนวน 2,987.33 หุ้น 96.38 ล้านบาท ในรูป USDT พร้อมโอนให้บริษัท Beteverse Limited ที่จดทะเบียนในเซเชลส์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกอ้างว่าเป็น “เชลล์คอมพานี”

เอกสารอ้างว่า “ผู้ซื้อรายเดียวกัน” คือ Beteverse และธุรกรรมทั้งสองเกิดขึ้นวันเดียวกัน 7 ม.ค. 2568 พร้อมโอนเข้าสู่กระเป๋าคริปโตเดียวกัน

วรภัคยืนยันว่า ภรรยาของเขา ไม่เคยถือหุ้น ใน CAI และ ไม่เคยมีบัญชีคริปโต อย่างที่ถูกกล่าวอ้าง  เขาบอกว่าเอกสารที่ปรากฏ ยังไม่ถูกดำเนินการ not executed และเขารอการยืนยันจาก CAI ว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่

เขาระบุว่าเงินประมาณ 100 ล้านบาทที่ออกมาจากบัญชีในช่วงหนึ่ง เป็นผลจากการขายหุ้นบริษัท Finansia Syrus Public Company Limited (ฟินันเซีย ไซรัส) โดยเขาให้ข้อมูลว่าใช้เงินกู้จาก CAI และเงินส่วนตัวร่วมลงทุน

วรภัค ยืนยันว่า เอกสารที่ถูกเปิดเผย ยังคงเป็น “ข้ออ้าง” และ เอกสารไม่ได้ถูกดำเนินการ ซึ่งแปลว่าอาจไม่เกิดธุรกรรมจริงตามที่อ้าง

รายงานชี้ว่าแม้มีเอกสารอ้าง แต่ “การถือหุ้น” หรือ “บัญชีคริปโต” ของภรรยาวรภัคนั้นถูกปฏิเสธโดยเขาเอง

นอกจากนี้ มีการกล่าวหาว่า วรภัค อาจมีความสัมพันธ์กับบริษัทหรือธนาคารที่ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น เครือ BIC Group BIC Bank Cambodia โดยหน้าเว็บไซต์ของ BIC Group เคยปรากฏชื่อของ นายวรภัค ไปเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการ แม้ปัจจุบันไม่ปรากฏรูปดังกล่าวบนเว็บไซต์ของ BIC Group แล้ว

วรภัคถูกตั้งคำถามว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทบีไอซีกรุ๊ป (BIC Group) กลุ่มทุนการเงินขนาดใหญ่ในกัมพูชาที่มี นายยิม เลียก ชาวกัมพูชา เป็นประธานกรรมการบริษัท

เขาชี้แจงด้วยว่าเคยพบกับ นายยิม เลียก จริง แต่จำไม่ได้ว่าใครเป็นผู้แนะนำ เวลาที่มาคุยกับผมก็จะถามเรื่องธนาคารเป็นหลัก

ทั้งนี้ นายยิม เลียก เป็นหนึ่งในบุคคลที่ปรากฏชื่ออยู่ในร่างกฎหมายของสหรัฐฯ ซึ่งชี้ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับศูนย์สแกมเมอร์ในกัมพูชา

ส่วน เบนจามิน เมาท์เออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ วรภัค บอก รู้จักกันพราะลูกเรียนโรงเรียนเดียวกัน

วรภัค ยืนยันว่า ไม่เคย มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ หรือธุรกิจผิดกฎหมายใด ๆ ทั้งในกัมพูชาและที่อื่น เขาชี้แจงว่า ภรรยาของเขา ไม่เคยมีบัญชีคริปโต และ ไม่เคยได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากการโอนเงินคริปโตตามที่ถูกอ้าง

ซึ่งเป็นจุดที่ยังอยู่ในขั้น “ข้อกล่าวหา” และยังไม่มีการพิสูจน์ชี้ชัด

การลาออก = จบไหม?

การลาออกของวรภัคอาจช่วยลดแรงกดดันต่อรัฐบาล และถือเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่า “ยอมรับผิดชอบเบื้องต้น” หรือหลีกเลี่ยงให้เรื่องส่วนตัวกระทบภาพรวมรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางเขาให้เหตุผล

แต่การลาออก ไม่ใช่ การยืนยันว่า “ไม่มีอะไรเหลือให้ตรวจสอบแล้ว” ยังมีข้อกล่าวหาและรอยรั่วที่สังคมต้องการคำตอบ เช่น เอกสารที่อ้างถึงคริปโตของภรรยา ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตั้งคำถาม

คำถามคือ นายก อนุทิน ชาญวีรกูล จะขัดจริยธรรมหรือไม่ เฉกเช่นเดียวกับ กรณีของ นายกเศรษฐา ทวีสิน ที่แต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน ที่เคยถูกต้องคดี นั่งรัฐมนตรี จนทำให้ขัดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่

ทั้งนี้ มีข้อสังเกตจากนักกฎหมายมหาชนว่า นายกฯ อนุทิน อาจถูกยื่นร้อง เข้าข่าย “ขาดคุณสมบัติ” โดยเฉพาะเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริตจริยธรรมร้ายแรง ตามมาตรฐานของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีแต่งตั้ง วรภัค นั่งรมช.คลัง หากมีการตรวจสอบ ความเชื่อมโยงฐษนความผิดของ วรภัค ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์จริง


📰 อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ The Mainstream

มึนแบบกัมพูชา? ทหารเกาหลีเหนือเดินล้ำเขต ทหารเกาหลีใต้ต้องยิงเตือน!

“อนุทิน” หารือ กกต. เตรียมทำประชามติแก้รธน. ควบเลือกตั้ง-ยกเลิก MOU