ยื่นซักฟอก ลาก “ธรรมนัส” ตายเดี่ยว

ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล “อนุทิน” เป้าหมาย “ธรรมนัส” ปมแก๊งสแกมเมอร์-ชายแดนเดือด เสี่ยงสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลเสียงข้างน้อย

สถานการณ์รัฐบาลเสียงข้างน้อยเปราะบางมากขึ้นทุกขณะ ภายหลังถูกล้อมกรอบด้วยสารพัดปัญหา โดยเฉพาะความล่าช้าปราบแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ เน้นแต่ตีปี๊บงานอีเวนต์ต่างๆ ไร้ลูกเด็ดขาด แก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ต่างจากหลายประเทศที่โชว์ความดุดัน ยึดทรัพย์ลอตใหญ่เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์

อาการนั่งไม่ติดของ“นายกฯหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ภายหลังภูมิคุ้มกันรัฐบาลป้อแป้จากการแบกความคาดหวังของประชาชน

แรงกระแทกปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์กัมพูชา ทำต้นทุนความเชื่อมั่นรัฐบาลสั่นคลอน นับวันยิ่งมีตัวละครซีกรัฐบาลถูกกล่าวหาติดร่างแหเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ไหนจะปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา แม้2ประเทศจะลงนามสันติภาพหยุดสู้รบ ฉากหน้าเหมือนดูดี แต่สถานการณ์ยังคุกรุ่น ไม่เข้ารูปเข้ารอย ทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีการปั่นกระแสชาตินิยมต่อเนื่อง ความขัดแย้งเสี่ยงคุกรุ่นได้ตลอด

หนำซ้ำยังมีลูกติดพันการลงนามเอ็มโอยูไทย-สหรัฐ เรื่องแร่หายาก มาแทรกอีก ล่าสุดมีคิวแทรกสถานการณฺน้ำท่วหลายพื้นที่ จากความล้มเหลวบริหารจัดการน้ำ ปลุกพายุอารมณ์คนไทยเพิ่มขึ้น

เรื่องเก่าเรื่องใหม่อีนุงตุงนัง มัดคอรัฐบาลเต็มไปหมด เพิ่มความเสี่ยงอายุรัฐบาลอาจจอดป้ายก่อนครบ 4เดือน วันที่31ม.ค.2569

จังหวะที่พรรคเพื่อไทยชิงออกตัวสร้างคะแนนนิยม จ้องเขม็งตีแผ่ความผิดพลาดการบริหารงานรัฐบาลสีน้ำเงิน จ่อยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในการเปิดประชุมสภาสมัยหน้า เดือนธ.ค. ล็อกเป้ากระหน่ำรัฐมนตรีสีเทาที่เชื่อมโยงแก๊งสแกมเมอร์กัมพูชา เร่งทวงคืนความนิยมที่ล่มสลายไปจากวิกฤติชายแดน สมัยรัฐบาล“แพทองธาร”

คนละอารมณ์กับพรรคประชาชนที่กระอักกระอ่วน ลังเลร่วมยื่นซักฟอกรัฐบาลอย่างที่ ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน แทงกั๊กยังไม่มีข้อมูลรัฐบาลทำผิดร้ายแรงให้ต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ภาวะค่ายส้มกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องรอหารือีกครั้งจะร่วมวงฝ่ายค้านจับรัฐบาลขึ้นเขียงหรือไม่

ออกอาการห่วงหน้าพะวงหลัง เพราะเงื่อนไขการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป้าหมายใหญ่พรรคประชาชนเพิ่งเดินมาได้แค่ครึ่งๆกลางๆ แนวโน้มอาจเร่งเครื่องให้ผ่านวาระ2-3 ไม่ทันเดือนพ.ย.นี้

หากบุ่มบ่ามยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาจถูก “นายกฯหนู” ชิงประกาศยุบสภาก่อนแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จ เกมยกเครื่องกติกาประเทศ ติดหล่มเสียของซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่หากไม่ร่วมลงสนามชำแหละความผิดพลาดรัฐบาลก็เสียหน้าพรรคแกนนำฝ่ายค้าน โดนพรรคเพื่อไทยลากมาประจาน ทำหน้าที่ฝ่ายค้ำมากกว่าฝ่ายค้าน ฉุดแต้มติดลบในสายตาประชาชน

ไฟต์บังคับกดดันค่ายส้มให้ต้องตัดสินใจร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่อาจปรับกลยุทธ์ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเฉพาะรัฐมนตรีรายบุคคล เว้นวรรคจับ “เสี่ยหนู”ขึ้นบัญชีดำ

ล็อกเป้า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม จำเลยร่วมที่พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยเขม่นตรงกัน ในปมที่ถูกครหาเชื่อมโยงปัญหาแก๊งสแกมเมอร์

ระดับตัวพ่อ เรียกสายล่อฟ้าเสี่ยงทำรัฐบาลตายหมู่ คิวที่ “นายกฯอนุทิน” ต้องซ่อนเล่ห์ ใช้เวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืมมือฝ่ายค้านคว่ำ “ผู้กองนัส” โดยอ้างกติกาที่ชอบธรรมตามกลไกสภาฯ ลากให้ตายเดี่ยว เพราะหากยังแบกต่อ อาจจบเห่ไปด้วยกันทั้งรัฐบาล

ได้ทั้งขจัดจุดอ่อนในรัฐบาล และตัดกำลังคู่แข่งการเมือง  ในฐานะพรรคล้าธรรมคือ ตัวแปรสำคัญการเลือกตั้งสมัยหน้า ต้องหาช่องบอนไซ

หากให้ปีกกล้าขาแข็ง เติบโตเร็ว ก็ยิ่งสร้างแต้มต่อ เพิ่มอำนาจต่อรองมากขึ้น

การเมืองไทยฝุ่นตลบ ทั้งเปิดหน้าสู้ ซ่อนมีดแทงหลัง เพราะมีเดิมพันอำนาจใหญ่คือ ชิงการเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้ง


📰 อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ The Mainstream

กองทัพบก ยืนยัน “กับระเบิดห้วยตามาเรีย” เป็นการลอบวางใหม่!

อนุทิน สั่งระงับข้อตกลง! สันติภาพไทย-กัมพูชา จนกว่ากัมพูชาจะเลิกเป็นภัย